สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 948 สาวใช้ตัวแสบ852

ตอนที่ 948 สาวใช้ตัวแสบ852
อาหารเช้าจบไปได้ไม่นาน หลังจากฝู้เฟิ่งหยีพาเซี่ยชีหรั่นกับจิ่วจิ่วไปบอกลาเย่เฮ่าหรันแล้วก็ออกเดินทาง
“ชีหรั่น ดูสีหน้าและสภาพจิตใจไม่ค่อยจะดี พวกเราไปซื้อเครื่องสำอางกันหน่อย และเอาเซี่ยชีหรั่นคนสวยๆกลับมา” จิ่วจิ่วพูดแจ้วจ้าวตลอดทางไม่มีหยุด ฝู้เฟิ่งหยีมองดูทั้งสองคนตลอดเวลา เซี่ยชีหรั่นนั้นสุขุมเยือกเย็น เมื่อเทียบกับจิ่วจิ่วแล้ว ทั้งสองคนนิสัยแตกต่างกันอยากสิ้นเชิง พวกเธอสามารถมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้อย่างนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ
“แม่คะ แม่จะซื้ออะไรคะ?”เซี่ยชีหรั่นถามความเห็นของฝู้เฟิ่งหยี เพราะเธอเสนอออกมาว่าต้องการมาซื้อของ แม้ว่าจะไม่ใช่ฝู้เฟิ่งหยีเสนอออกมาเซี่ยชีหรั่นก็เคารพความเห็นของเธอ
เซี่ยอี้ชิงขับรถไปด้วย พลางมองคนสามคนที่นิสัยแตกต่างกันจากกระจกหลังด้วย ในใจดีใจกับเซี่ยชีหรั่น ขอแค่เซี่ยชีหรั่นพูดก็ดีกว่าอะไรทั้งนั้น  
“ไปซื้อตามที่จิ่วจิ่วบอกนั้นแหละ” ฝู้เฟิ่งหยีดูแลตัวเองดีมาโดยตลอด ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพิ่งจะซื้อไป ที่ให้เซี่ยชีหรั่นออกมาซื้อของเป็นเพื่อน เพราะเธออยากให้เซี่ยชีหรั่นออกมาจากบรรยากาศที่น่าอึดอัด ออกมาเปลี่ยนอารมณ์บ้าง เพราะสิ่งที่เธอทำได้มีไม่มาก
หลังจากที่จิ่วจิ่วได้ฟังชีหรั่นพูดจบ ก็โทษตัวเองว่าทำไมคิดไม่ถึงฝู้เฟิ่งหยี เธอมองอย่างขอโทษไปทาง ฝู้เฟิ่งหยี
สีหน้าละอายใจอย่างสุดซึ้งฝู้เฟิ่งหยีเห็นความละอายใจบนสีหน้าของจิ่วจิ่ว เธอจึงยิ้มและยื่นมือออกไปตบปลอบที่หลังมือของเธอ
“อี้ชิง ขับรถไปที่เดิม เราจะไปซื้อของใช้จำเป็นหน่อย”เซี่ยชีหรั่นพูดกับเซี่ยอี้ชิงที่ขับรถอยู่ หลังจากที่มาอยู่กับเย่เชินหลินชีวิตของเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ที่บางที่เดิมที่สำหรับเธอแล้วคือได้แต่หวังแต่ไม่อาจเอื้อมถึง ตอนนี้เธอไม่อยากมาก็ถูกคุณชายเย่พามา และคุ้นทางเป็นอย่างดีมาตั้งนานแล้ว
“รู้แล้วครับ” เซี่ยอี้ชิงพยักหน้าอัตโนมัติ
เมื่อมาถึงที่หมายแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ประคองฝู้เฟิ่งหยีลงจากรถ จิ่วจิ่วก็ประคองเธอจากอีกฝั่งเช่นเดียวกัน ฉากนี้ดูอบอุ่นมาก ความหดหู่ในใจของฝู้เฟิ่งหยีก็เจือจางลงมากเหมือนกัน
เดิมทีเธอต้องลงรถด้วยตัวเอง หรือไม่ก็คือลูกน้องที่มาด้วย ตอนนี้มีเด็กสองคนอยู่ข้างๆ เธออธิบายความสุขนี้ไม่ถูก
ที่นี่คือสถานที่หรูหราของบรรดาเศรษฐีและชนชั้นสูง คนไม่ถือว่าเยอะ
ข้างประตูมีพนักงานแต่งตัวเรียบร้อยยืนอยู่ และยิ้มทัยทางคนทั้งสามคน เซี่ยชีหรั่นตามฝู้เฟิ่งหยีเดินขวักไขว่อยู่ในทุกๆโซนของแบรนด์เนมอย่างไม่เร่งรีบ
“แม่คะ ไปดูผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไหม?”เซี่ยชีหรั่นยิ้มพลางเอ่ยถาม
“แม่แก่แล้ว ลูกกับจิ่วจิ่วไปเลือกเถอะ ไม่ต้องสนใจแม่” ฝู้เฟิ่งหยียิ้มพลางพูดขำๆ เดิมทีแม้จะพูดว่าตัวเองไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว หลายปีมานี้ใส่ใจกับการบำรุงรักษาความงามให้ยังคงอยู่ และระหว่างคิ้วยังคงเหมือนแต่ก่อนไม่ได้เปลี่ยนไป
“จะเป็นไปได้ยังไงคะ คนอื่นเห็นเราสามคน ต้องบอกว่าเราเป็นพี่น้องกันแน่ๆ” จิ่วจิ่วพูดขึ้นเสียงดัง”ใช่ไหมชีหรั่น”
แถมยังขยิบตาและทำปากขมุบขมิบใส่เซี่ยชีหรั่นอีก
“ใช่ค่ะ แม่จะแก่ได้ไง ยังสาวอยู่เลย”
ทั้งสามคนพูดคุยกันอยู่ตรงนี้ ไห่ฉิงฉิงกับโม่เสี่ยวจุนก็เดินออกมาจากข้างใน โม่เสี่ยวจุนโอบเอวไห่ฉิงฉิงเอาไว้ ท่าทางระมัดระวังเอามากๆ ทั้งสองคนเดินออกมาอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
“พี่ชาย พี่สะใภ้”เซี่ยชีหรั่นเห็นสถานการณ์แบบนี้ เธอดีใจกับทั้งสองคนจริงๆ เธอรู้สึกติดค้างโม่เสี่ยวจุนมาโดยตลอด เรื่องที่เธอรักเย่เชินหลินกลายเป็นเรื่องจริง เธอไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ เธอหวังจริงๆว่าโม่เสี่ยวจุนจะหาคนที่ตัวเองรักได้
“ชีหรั่น จิ่วจิ่ว คุณป้า” ไห่ฉิงฉิงได้ยินเสียงของเซี่ยชีหรั่น จึงเดินอย่างช้าๆเข้ามาทักทายทุกคน
โม่เสี่ยวจุนพยักหน้าและเดินตามย่างก้าวของไห่ฉิงฉิงอย่างไม่เร่งรีบ
“ฉิงฉิงไม่เจอกันนานเลยนะ วันนี้สีหน้าดูดีเชียว” ฝู้เฟิ่งหยีเห็นท่าทางของไห่ฉิงฉิง ในใจก็เข้าใจขึ้นหลายส่วน
ดูท่าทางระมัดระวังแบบนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีลูกแล้ว เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ฝู้เฟิ่งหยีจึงมองอีกหลายครั้ง
“คุณป้าก็เหมือนกันค่ะ “ไห่ฉิงฉิงไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น ตระกูลเย่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พูดมากเกินไปก็ไม่ดี
ฉิงฉิงทำไมวันนี้เดินไม่เหมือนกับแต่ก่อนเลยล่ะ” จิ่วจิ่วถามอย่างแปลกใจ เธอจำได้ว่าแต่ก่อนไห่ฉิงฉิงไม่ได้เดินด้วยท่าทางบอบบางแบบนี้
“เหมือนเดิมนั้นแหละ พวกคุณมาซื้อของกันเหรอคะ?พวกเราซื้อเสร็จแล้ว ต้องไปแวะโรงพยาบาลก่อน ไม่รบกวนพวกคุณแล้วนะคะ” ใบหน้าของไห่ฉิงฉิงแดงระเรื่อ เธอปราดมองไปที่โม่เสี่ยวจุน ชีวิตอย่างในตอนนี้เธอรู้สึกพอใจมากแล้ว
“โอเค แต่ไปโรงพยาบาล? เธอไม่สบายเหรอ?” จิ่วจิ่วไม่เข้าใจพลางมองสแกนไห่ฉิงฉิงทั้งตัว เธอไม่ได้ดูป่วยตรงไหนนิ เซี่ยชีหรั่นกำลังคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้นกับไห่ฉิงฉิง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
“เปล่าพวกเราไปก่อนนะ” ไห่ฉิงฉิงลากโม่เสี่ยวจุนเดินออกไป และก้าวเดินอย่างเร่งรีบ
“ช้าหน่อย ไม่ต้องรีบ” โม่เสี่ยวจุนพูดอย่างอ่อนโยน
จิ่วจิ่วมองแผ่นหลังของโม่เสี่ยวจุน ในใจไม่ได้แปรปรวนแม้แต่น้อย ดูแล้วเขาคงปล่อยวางแล้วจริงๆ ตำแหน่งตรงนั้นถูกใครบางคนครอบครองไว้แล้ว
ฝู้เฟิ่งหยีผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน เมื่อเธอได้ยินว่าไห่ฉิงฉิงกำลังจะไปโรงพยาบาลเธอก็ยิ่งยืนยันได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองไปที่ท้องของเซี่ยชีหรั่น ตอนนี้ถ้าเซี่ยชีหรั่นให้กำเนิดลูกคนหนึ่งกับเย่เชินหลินจะสามารถทำลายสถานการณ์ตอนนี้ลงได้ไหมนะ
หลังจากที่จิ่วจิ่วเห็นสายตาของฝู้เฟิ่งหยี จึงมองไปที่ท้องของเซี่ยชีหรั่นแวบหนึ่งเช่นกัน แต่ท้องชีหรั่นไม่ได้เป็นอะไรนิ
“ชีหรั่น เห็นท่าทางของฉิงฉิงแบบนี้แล้ว ลูกก็ต้องขยันเหมือนกันนะ” ฝู้เฟิ่งหยีพูดออกมาอ้อมๆ
“แม่คะ”เซี่ยชีหรั่นไม่รู้จะต้องพูดยังไงออกไป ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับเย่เชินหลินไม่ใช่ฤดูหนาวและไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิด้วย
ตอนที่ไห่ฉิงฉิงถูกโม่เสี่ยวจุนช่วยประคองเข้าไปในรถ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อคิดถึงคำถามของจิ่วจิ่วเธอหน้าแดงพลางมองไปยังโม่เสี่ยวจุนที่เข้ามาจากอีกฝั่ง
“ฉิงฉิงคุณไม่เป็นไรใช่ไหม”ตั้งแต่ได้เจอกับทั้งสามคน ไห่ฉิงฉิงก็เอาแต่ยิ้มตลอดเวลา
“ฉันไม่เป็นไร ออกรถเถอะ อีกสักพักพอตรวจเสร็จแล้วเราก็กลับบ้านกัน ฉันจะทำกับข้าวให้คุณกินเอง”เสียงที่ไห่ฉิงฉิงพูดใสมาก สามารถฟังออกได้ถึงความสุขของเธอ แต่ก่อนแม้ว่าโม่เสี่ยวจุนจะอยู่ข้างๆเธอมาตลอด แต่เธอมักจะมีความรู้สึกวิตกกังวลกับผลได้ผลเสียของตัวเอง ตอนนี้มีลูกแล้ว สภาพจิตใจของเธอก็เปลี่ยนไปมาก คนที่จะเป็นแม่คน เธอไม่เอาความคิดทั้งหมดของเธอไปโฟกัสที่โม่เสี่ยวจุนอีกแล้ว แบบนี้ยิ่งทำให้เธอเห็นชัดเจนขึ้นว่าโม่เสี่ยวจุนจะอยู่ข้างๆเธอตลอดไป และไม่มีวันจากไป
โม่เสี่ยวจุนพยักหน้า เขาไม่รู้ถึงความคิดของไห่ฉิงฉิง ในเมื่อพูดว่าไม่ได้เป็นอะไร งั้นเขาก็จะทำเป็นว่าไม่มีอะไร ในฐานะที่เป็นผู้ชายใส่ใจมากๆหน่อยก็โอเคแล้ว
ไม่รู้ว่าชีหรั่นกับเย่เชินหลินเป็นยังไงกันบ้างแล้ว หลังจากที่โม่เสี่ยวจุนเห็นคุณหมอพาไห่ฉิงฉิงไปแล้ว ในใจก็เริ่มคิดถึงเรื่องของพวกเขา เย่เชินหลินผมยกชีหรั่นให้คุณไป ทางที่ดีคุณอย่าทำให้เธอผิดหวัง ตอนนี้ผมเป็นแค่พี่ชายของเธอก็จริง แต่ผมมีสิทธิ์ทำให้เธอมีความสุขได้
เมื่อเห็นไห่ฉิงฉิงที่เข้าไปแล้วสักพักยังไม่ออกมา ช่วงนี้ปริมาณการกินของไห่ฉิงฉิงค่อนข้างมาก โม่เสี่ยวจุนกังวลว่าอีกสักพักเธอจะหิวอีกรึเปล่า พอคิดแบบนี้ โม่เสี่ยวจุนวางแผนจะไปซื้อโจ๊กมาไว้ให้ไห่ฉิงฉิงก่อน
ตรงข้างโรงพยาบาลมีร้านขายโจ๊กร้านหนึ่ง ขายดิบขายดีมาก โม่เสี่ยวจุนเข้าแถวอยู่พักหนึ่งเพิ่งจะถึงตา
“เถ้าแก่ผมเอาซุปจืดๆที่หนึ่ง โม่เสี่ยวจุนนึกถึงการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตขึ้นมาได้ว่าหญิงมีครรภ์กินโจ๊กให้น้อยๆดีกว่า ตอนแรกวางแผนที่จะซื้อโจ๊ก แต่เปลี่ยนซื้อซุปแทน
“ได้ คุณรอสักครู่นะ” เถ้าแก่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและห่อใส่ถุงให้เขา โม่เสี่ยวจุนมองไปรอบๆ รอให้เถ้าแก่ทอนเงินให้เขา ห่างออกไปไม่ไกลยังที่ๆคนพลุกพล่านมีคนๆหนึ่ง บนใบหน้ามีไฝดำเม็ดหนึ่ง และยังอยู่ฝั่งซ้ายด้วย
โม่เสี่ยวจุนจำได้ว่าตอนนั้นพีซีผู้หญิงบอกว่าอาซานมีไฝที่ใบหน้าด้านซ้าย คนนี้ตรงกับที่พีซีผู้หญิงบอกมากๆ
“เงินทอนของคุณครับ”เถ้าแก่ถือเงินไว้พลางมองโม่เสี่ยวจุนที่เร่งรีบวิ่งพุ่งออกไป วันนี้ธุรกิจไม่เลวเลยจริงๆแล้วเขาขายของต่อ
เขาไม่รอเถ้าแก่ทอนเงินให้ จากนั้นก็ถือซุปไว้แล้ววิ่งออกมาเลย ผ่านถนนคนเดินมา สถานที่เดิมคนเริ่มบางตาลงแล้ว
มองดูเวลาก็นานมากแล้ว ไห่ฉิงฉิงอยู่โรงพยาบาลคนเดียว เขาออกได้สักพักแล้ว โม่เสี่ยวจุนกำหมัดแน่น เรื่องของชีหรั่นจบไปแล้ว เย่เชินหลินเคยพูดไว้ แต่นั้นมันจบแค่ภายนอกเท่านั้น
โม่เสี่ยวจุนมองโรงพยาบาล สุดท้ายทำได้แค่ยอมแพ้
“ไม่มีอะไร เด็กปกติดี”หลังจากตรวจเสร็จคุณหมอก็ยิ้มตาหยีบอกกับไห่ฉิงฉิง
“ขอบคุณค่ะ” ไห่ฉิงฉิงอารมณ์ดีมาก หลังจากที่บอกคุณหมอจบก็เป็ดประตูออกมา แต่ไม่เห็นตัวของโม่เสี่ยวจุน
ไห่ฉิงฉิงมองไปยังที่รอบๆ เธอไม่กล้าเดินไปไกล กลัวว่าโม่เสี่ยวจุนกลับมาแล้วจะไม่เจอเธอ
เมื่อโม่เสี่ยวจุนเข้ามาเห็นท่าทางเป็นห่วงของไห่ฉิงฉิงเขาก็รู้สึกละอายใจมาก
“ฉิงฉิง ผมกลัวว่าคุณจะหิว ผมก็เลยออกไปซื้อโจ๊กให้คุณ แต่ผมได้ยินมาว่ากินซุปจะดีกว่า” โม่เสี่ยวจุนยื่นซุปที่ยังอุ่น ๆ ในมือให้ไห่ฉิงฉิง
ไห่ฉิงฉิงเห็นถุงในมือโม่เสี่ยวจุนก็รู้แล้วว่าเขาไปไหนมา ผู้ชายคนนี้เรื่องละเอียดอ่อนขนานนี้ก็ช่วยเธอคิด
ดวงตาของไห่ฉิงฉิงเต็มไปด้วยน้ำตาของความซาบซึ้ง
“มา กินตอนที่มันร้อนๆอยู่ แล้วเราค่อยกลับ”โม่เสี่ยวจุนดึงไห่ฉิงฉิงให้นั่งลงที่โต๊ะข้างๆ จากนั้นก็เปิดถุงซุปที่ห่อไว้อย่างดีให้เธอ
ไห่ฉิงฉิงมองดูโม่เสี่ยวจุนตลอดเวลา เหล้าไม่ได้ทำให้คนเมามายคนต่างหากที่ทำให้ตัวเองเมามาย ในตอนนี้เกรงว่าต่อให้ตรงหน้าเป็นยาพิษเธอก็คงกินอย่างหอมหวาน
เมื่อเห็นไห่ฉิงฉิงเริ่มกินซุป เขาก็ใช้โอกาสนี้ในการจัดการเรื่องนี้
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นประกาศออกมาอาซานก็ถูกสั่งการไม่อนุญาตให้ปรากฏตัวที่เมืองตงเฉิง วันนี้มาที่นี่แค่เพื่อสนุกกับเพื่อนๆเสเพลเท่านั้น เขาคิดว่าเรื่องผ่านไปสักพักหนึ่งแล้ว ในเมื่อเซี่ยชีหรั่นปล่อยออกมาแล้ว คนอื่นๆก็ไม่มีทางมาตามสืบคนขายเสื้อผ้าในตอนแรกอย่างเขาคนนี้หรอก เขาลืมบางอย่างไป การต่อสู้กันระหว่างจงหวีฉวนกับเย่เฮ่าหรันยังไม่จบ
อาซานไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับโม่เสี่ยวจุนที่นี่ในวันนี้ เขาและเพื่อนกอดคอกันเดินจากไป เขาไม่รู้เลยว่าถูกโม่เสี่ยวจุนเห็นเขาปรากฏตัวแล้ว
โม่เสี่ยวจุนกำลังคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับเย่เชินหลินยังไง เรื่องเกี่ยวพันกับตระกูลเย่ จิตใต้สำนึกเขาไม่อยากให้ตระกูลเย่เกิดเรื่อง วิธีการนี้แม้แต่เขาเองยังไม่ได้ให้ความสนใจเลย
เย่เชินหลินได้รับสายของโม่เสี่ยวจุนตอนสองทุ่ม เขากำลังยุ่งอยู่กับการวางแผนในช่วงนี้ที่ บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปเพียงคนเดียว
“มีเรื่องอะไร?”เย่เชินหลินไม่รู้ว่าโม่เสี่ยวจุนโทรหาเขาในเวลานี้ต้องการจะพูดอะไร เมื่อดูเวลาแล้วคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆทั่วไป
นัยน์ตาของเย่เชินหลินสว่างวาบ หรือว่าจะเกี่ยวกับเรื่องเซี่ยชีหรั่น? เขาเดาว่าต้องเกี่ยวกับเซี่ยชีหรั่นแน่ แต่เดาไม่ถูกก็คือมันเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลพวกเขา
“วันนี้ผมเจอคนๆหนึ่งที่หายตัวไปนานอยู่บนถนน”โม่เสี่ยวจุนคิดถึงเมื่อไม่นานมานี้ที่ตามหาอาซานมาโดยตลอด แต่หายังไงก็หาไม่เจอ ผู้ชายคนนั้นที่ชื่ออาซาน ราวกับว่าหายตัวไปจากโลกใบนี้เลย

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset