สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 953 สาวใช้ตัวแสบ 857

ตอนที่ 953 สาวใช้ตัวแสบ 857
ครั้งนี้เซี่ยชีหรั่นตอบเขาในที่สุด
“ท่านประธานจงหาหนูมีธุระอะไรเหรอ?” เมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินคำว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือดเธอก็ตอบเขาทันที เดิมทีเธอจะเรียกเขาว่าพ่อแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเรียกเขาว่าท่านประธานจง
จงหวีฉวนได้รับความไว้วางใจจากเซี่ยชีหรั่น จึงเป็นเหตุผลที่เขานำไปขอพบเซี่ยชีหรั่นจนในที่สุดเขาก็สามารถเข้ามาในบ้านตระกูลเย่ได้ อาจพูดได้ว่าเขาได้บรรลุเป้าหมายของเขาเรียบร้อยแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าหลังจากมาถึงสักพักเย่เชินหลินดันกลับมาถึงบ้านแล้ว เขารู้ว่าหมาป่าตัวใหญ่เย่เชินหลินตัวนี้เข้าหาได้ยาก เพียงการเผชิญหน้าครั้งแรกเขาก็ถูกข่มขู่แล้ว
“เชินหลิน ผมว่างแค่ไม่กี่วันนี้ ก็เลยหาเวลาแวะมาเยี่ยมเซี่ยชีหรั่นหน่อย หลังจากนี้คงไม่มีเวลามาเยี่ยมแล้วล่ะ” จงหวีฉวนแอบนินทาในใจ เจ้าหนู ฉันจะได้นั่งตำแหน่งนั้นอย่างแน่นอน
เย่เชินหลินส่งกุหลาบให้เซี่ยชีหรั่นแล้วนั่งลงตรงข้ามจงหวีฉวนอย่างสง่า วันนี้ไอ้จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้จะมาทำไมนะ อยากรู้จริงๆ เลยว่ามันมีแผนอะไรกันแน่
“เดี๋ยวฉันขอไปเตรียมอาหารก่อนนะ” หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นพูดจบเธอก็จำอาหารที่เธอทำได้ในครั้งแรกที่จงหวีฉวนมากินที่บ้านว่าเขาไม่ชอบอาหารเสฉวน
“ไม่เป็นไรชีหรั่น ไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอก” จงหวีฉวนพูดด้วยความเกรงใจ การจะเป็นพ่อที่ดีนั้นต้องแสดงออก
เซี่ยชีหรั่นอยากถามจงหวีฉวนว่าเขาอยากกินอะไรบ้าง แต่เย่เชินหลินก็ขัดจังหวะเธอ ถ้าจงหวีฉวนต้องการสร้างภาพว่าเป็นพ่อที่ดี เขายินดีที่จะช่วย
“ชีหรั่น ท่านประธานจงพูดแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เธอก็ทำตามนั้นเลย” เย่เชินหลินพูดอย่างงุนงง เซี่ยชีหรั่นก็พยักหน้าตอบแล้วถือดอกกุหลาบเดินไปอย่างมีความสุข
เย่เชินหลินมองไปที่จงหวีฉวนด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าแม้คุณจะเป็นพ่อของชีหรั่นก็ตาม แต่เธอเชื่อฟังผมมากกว่า
จงหวีฉวนมองกลับไปที่เย่เชินหลินด้วยสายตาที่เฉียบคม เขาและเย่เชินหลินต่างรู้จักกันดี หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นไม่อยู่ด้วยเขาก็ไม่จำเป็นต้องสวมบทบาทพ่อที่ดีอีก
“ประธานจง เอาตรงๆ เลยดีกว่า คุณมาทำอะไรที่นี่?” เมื่อเซี่ยชีหรั่นไม่อยู่ด้วย เย่เชินหลินก็พูดอย่างไม่เกรงใจและเมื่อสังเกตแววตาของจงหวีฉวนอย่างละเอียดแล้ว ถ้ามองผ่านสีหน้าภายนอกอาจจะดูไม่ออก แต่ถ้ามองผ่านแววตาคู่นั้นก็ไม่มีอะไรสามารถปิดบังได้ เย่เชินหลินจึงอยากรู้ว่านัยน์ตาที่มีเลศนัยคู่นี้จะสามารถทำอะไรได้บ้าง
“เชินหลิน ในฐานะพ่อคนหนึ่ง ผมแค่ตั้งใจมาเยี่ยมชีหรั่นเท่านั้น” จงหวีฉวนพยายามหลบสายตาเย่เชินหลิน เขามาที่บ้านตระกูลเย่ด้วยจุดประสงค์ แต่จงหวีฉวนจะบอกจุดประสงค์ที่ไม่ควรบอกให้เย่เชินหลินฟังได้อย่างไร
จงหวีฉวน ไม่ว่าคุณจะมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ใด แต่คุณจัดเต็มมาเลย เย่เชินหลินเม้มปากมองจงหวีฉวนอย่างไม่เกรงกลัว
“เชินหลิน ทำไมไม่เห็นส้งหลิงหลิงเลย? เธออยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ?” จงหวีฉวนแสร้งถาม ดูเหมือนเป็นคำถามธรรมดาคำถามหนึ่ง แต่เขาถือโอกาสนี้มองไปรอบๆ บ้าน
เย่เชินหลินหรี่ตามอง จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ใจร้อนจริงๆ เลยนะ หางเริ่มโผล่แล้วรู้ตัวไหม?
“ประธานจง ส้งหลิงหลิงเป็นลูกสาวของคุณเหรอครับ?” เย่เชินหลินก็แสร้งถามกลับ
เซี่ยชีหรั่นเดินออกมาพอดีและมองทั้งสองที่กำลังคุยกันจากระยะไกล ในใจคิดว่าประธานจงมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์จริงๆ หรือ?
ก่อนที่จงหวีฉวนจะพูดต่อเขาได้สังเกตเห็นเซี่ยชีหรั่นที่ยืนอยู่ไม่ไกล แล้วเขาก็แกล้งหัวเราะแล้วพูดต่อ “เชินหลิน คุณกำลังพูดอะไรอยู่ ผมแค่กลัวว่าส้งหลิงหลิงจะก่อเรื่องให้คุณอีก” จงหวีฉวนแกล้งพูดเสียงดังโดยที่ไม่หันไปมองเซี่ยชีหรั่น เขาต้องการแค่ให้เธอได้ยินก็พอ
เซี่ยชีหรั่นหันกลับไปอย่างเงียบๆ เธอรู้ดีว่าคนอย่างจงหวีฉวนคงไม่คิดมาเยี่ยมเธออย่างเดียวหรอก เธอไม่เคยได้รับความรักจากพ่อตั้งแต่เด็ก เมื่อเห็นหน้าจงหวีฉวนแล้วใจเธอรู้สึกโหยหาความรักที่ขาดหายไปนั้นอย่างบังคับตัวเองไม่ได้ บางทีมันอาจเป็นแค่สัญชาตญาณของความเป็นมนุษย์ก็ได้
เย่เชินหลินเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวเล็กน้อยของเซี่ยชีหรั่น เขาไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เฝ้าดูเธอเดินออกไปจากสายตาอีกครั้ง
ยัยบ๊อง คุณยังไม่มอบทั้งใจให้ผมเลยนะ ดูเหมือนว่าเขาต้องพยายามให้มากกว่านี้ เขาต้องใส่ใจเธอและต้องเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวสำหรับเธอ
เมื่อรับประทานอาหาร อาหารบนโต๊ะไม่ใช่อาหารเสฉวนที่เผ็ดร้อน เมื่อนึกถึงจงหวีฉวนที่อยู่เมืองตงเฉิงมานานหลายปี เซี่ยชีหรั่นจึงทำอาหารเจ้อเจียงสองสามอย่างและอาหารซานตงอีกสองสามอย่าง ความจริงเธอไม่มีความสามารถในการทำอาหารที่ซับซ้อนขนาดนี้ แต่เธอแค่อยากให้จงหวีฉวนได้ชิมอาหารที่เธอทำเอง เธอจึงขอให้คนในครัวช่วยสอนเธอและให้เธอเป็นคนทำเองกับมือ
เซี่ยชีหรั่นค่อนข้างเงียบขรึมและไม่มีชีวิตชีวาเหมือนตอนแรก จงหวีฉวนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาคิดเพียงว่าต้องรีบหาวิธีทำลายความเงียบนี้ให้เร็วที่สุด
จิ่วจิ่วและเหยนชิงเหยียนไม่ได้อยู่บ้าน มื้อนี้จึงกินกันแค่สามคน สำหรับเย่เชินหลินแล้วเขามีความสุขมากที่ได้เห็นภาพในสถานการณ์ปัจจุบัน ตราบใดที่เซี่ยชีหรั่นยังสงสัยจงหวีฉวนอยู่ เธอก็จะไม่เชื่อใจจงหวีฉวนและจงหวีฉวนก็จะไม่มีโอกาสได้หลอกใช้เซี่ยชีหรั่นเช่นกัน
ตั้งแต่เข้ามาจงหวีฉวนยังไม่ได้เห็นหน้าส้งหลิงหลิงเลย เขาไม่แน่ใจว่าส้งหลิงหลิงยังอยู่ที่นี่ไหม เขาพยายามหาคนมาเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อให้การมาเยือนครั้งนี้ของเขาดูไม่ผลีผลามเกินไป
จงหวีฉวนไม่เคยรู้สึกขอบคุณไห่ลี่หมินมาก่อน แต่ตอนนี้เขาดันโทรเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมที่สุด
“พวกคุณทานไปก่อนนะ ลี่หมินโทรมาเดี๋ยวผมขอตัวออกไปรับสายครู่หนึ่ง” จงหวีฉวนไม่สามารถปกปิดความสุขนัยน์ตาของเขาได้ แต่ตอนนี้เขาแค่พยายามแสดงสีหน้าเกรงอกเกรงใจ สิ่งที่เขาดีใจก็คือเขาสามารถเข้าถึงคนของตระกูลเย่ได้ ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายของเขากำลังจะสำเร็จในไม่ช้า แต่ความเกรงอกเกรงใจที่แสดงออกนั้นก็เพื่อทำให้เซี่ยชีหรั่นเห็น
จงหวีฉวนรับสายต่อหน้าเขาทั้งสอง จากนั้นค่อยๆ เดินออกไปมุมมืด
“ลี่หมิน? โทรมามีธุระอะไรเหรอ?” จงหวีฉวนเดินออกไปข้างนอก
“ท่านประธานครับ เบื้องบนแจ้งมาว่าการจัดการความปลอดภัยสาธารณะของตงเฉิงต้องการตรวจเข้มกว่านี้ ช่วงนี้อาจจะส่งคนมาตรวจสอบสถานการณ์ครับ” ไห่ลี่หมินค่อยๆ อธิบายให้เขาฟัง จงหวีฉวนหลอกใช้เซี่ยชีหรั่นเพื่อตำแหน่งนั้นและจงหวีฉวนไม่รู้ว่าคดีที่เขาสร้างขึ้นจะทำให้เขาต้องเดือดร้อนในภายหลัง
“นายจัดการทางนั่นเลยนะ ส่วนความปลอดภัยสาธารณะให้บังคับใช้กฎหมายและคำสั่งอย่างเคร่งครัด” จงหวีฉวนพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างโมโห แต่เขายังคงควบคุมอารมณ์ได้ดี เขาเชื่อว่าไห่ลี่หมินผู้ช่วยที่ดีที่สุดของเขาคนนี้จะรับมือกับสถานการณ์ได้ดี แต่สิ่งที่เขารู้สึกเสียดายคืออยากให้ความสัมพันธ์ของไห่ลี่หมินกับเย่เชินหลินเยือกเย็นกว่านี้ถึงเป็นการดีที่สุดสำหรับเขา เมื่อคิดถึงสิ่งนี้แล้ว จงหวีฉวนหันมองไปที่บ้านหลังนี้ บางทีเขาอาจจะใช้คนในบ้านนี้เป็นประโยชน์ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
“ท่านไม่ต้องห่วงครับ” ไห่ลี่หมินพูดอย่างได้ใจ นับตั้งแต่เรื่องนี้เข้ามา จงหวีฉวนก็จะไม่มีเวลามากพอที่จะคิดแผนทำร้ายผู้อื่นในอนาคตอีก
หลังจากจงหวีฉวนวางสายลง เขายืนคิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้อยู่ข้างนอกสักพัก เพราะเหตุการณ์นี้ทำให้เขาไม่ทันตั้งตัวจริงๆ ดูเหมือนว่าเขาต้องกลับไปวางแผนดีๆ เสียแล้ว
“คุณเย่ดีกับคุณนายหญิงจริงๆ เลยเนาะ เพิ่งเสียลูกไปไม่นานก็คืนสภาพกันแล้ว”
“ได้ข่าวว่าไม่เกี่ยวกับคุณนายหญิงเลยนะ แม่เด็กต่างหากที่เป็นคนทำให้เด็กต้องเสีย” อีกเสียงเริ่มซุบซิบขึ้น
“นั่นสิ คุณนางหญิงโชคดีจริงๆ เลยเนาะ ตอนนี้คุณส้งก็ไม่รู้หนีไปไหนแล้ว”
เสียงกระซิบจากสาวใช้สองคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่และยังไม่รู้จักเย่เชินหลินดี
ข่าวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทั้งสองนี้ช่วยเขาได้มากเลยทีเดียว เขาคิดว่าจะไม่มีวันเอาชนะเย่เชินหลินได้ซะแล้ว แต่โชคชะตาก็ช่างเข้าข้างจงหวีฉวนคนนี้จริงๆ
อารมณ์ที่ถูกรบกวนจากข่าวร้ายของไห่ลี่หมินก็ค่อยๆ ดีขึ้น
จงหวีฉวนพยายามปรับอารมณ์ให้คงที่จนมั่นใจแล้วค่อยกลับเข้าไปในบ้าน
“เชิญนั่งครับ” เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นยืนจงหวีฉวนก็รีบเชิญเธอนั่งลงด้วยความเมตตากรุณา
“ลี่หมินโทรมาบอกว่าตงเฉิงจะถูกตรวจสอบความปลอดภัยสาธารณะอย่างเคร่งครัดในปีนี้” จงหวีฉวนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“มันเป็นเรื่องดีนะ” เย่เชินหลินพูดด้วยน้ำเสียงดีใจและเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องดีจริงๆ
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่จงหวีฉวน เพราะเรื่องนี้ผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือประธานจง เซี่ยชีหรั่นบอกว่าจะไม่สนใจเขาแต่ก็อดฝืนใจคิดไม่ได้
หลังบรรยากาศอาหารเย็นที่แสนเคร่งขรึม จงหวีฉวนบอกว่าเขาต้องรีบกลับไปทำธุระต่อเพื่อเป็นข้ออ้างให้เขาได้ออกจากที่นี่
เมื่อจงหวีฉวนกลับไปแล้วเย่เชินหลินก็อารมณ์ดีขึ้นทันทีและเมื่อนึกถึงดอกกุหลาบ 999 ดอกที่ซื้อในวันนี้มุมปากของเขาก็โค้งละเป็นส่วนโค้งที่สวยงาม
“ที่รัก ผมจะพาคุณไปดูอะไรบางอย่าง” เย่เชินหลินจับมือของเซี่ยชีหรั่นและเดินไปยังห้องที่เคยจัดงานเลี้ยงก่อนหน้านี้
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลินอย่างประหลาดใจ นี่มันห้องที่เคยจัดงานเต้นไม่ใช่เหรอ เธอจำได้ว่าล่าสุดเซี่ยอี้ชิงกับหลินต้าฮุยได้ย้ายของในนี้ออกไปหมดแล้ว
“หลับตาสิ ห้ามแอบมองนะ” เย่เชินหลินโน้มตัวแล้วพูดกับเซี่ยชีหรั่นเบาๆ กลิ่นหอมจากเส้นผมเธอทำให้เขารู้สึกเย้าย้วนใจ
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลินอย่างสงสัยและอยากได้คำตอบจากสีหน้าของเขา เจ้าชายเย่แกล้งไอแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “เพื่อความปลอดภัยของคุณ ผมจะเป็นคนปิดตาคุณเอง”
เย่เชินหลินปิดตาของเซี่ยชีหรั่นแล้วพาเธอเปิดประตูเข้าไป
เสียงผลักประตูดังขึ้นจนทำให้ขัดจังหวะสองคนที่กำลังยุ่งอยู่ในนั้น แก้วในมือของเซี่ยอี้ชิงเกือบจะหล่นลงพื้น แต่โชคดีที่เขามือเท้าไว
หลังจากทุกอย่างพร้อมแล้วทั้งสองพยักหน้าอย่างเงียบๆ แล้วเดินออกไป หลังออกจากห้องทั้งสองยังปิดประตูให้เขาด้วยความรับผิดชอบ
“ทำไมมืดจัง ไม่เปิดไฟเหรอ?” เซี่ยชีหรั่นลืมตาขึ้นและพบว่าในห้องนั้นมืดมิดไม่คุ้นเคย
ใบหน้าของเย่เชินหลินเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงสวิตช์ไฟในห้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะของเขา
ดอกกุหลาบจำนวนมากปรากฏต่อหน้าเซี่ยชีหรั่น เธอเบิกตากว้างและมองไปที่ดอกกุหลาบตรงหน้า จากนั้นหันมองไปที่เย่เชินหลิน เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นความจริง เซี่ยชีหรั่นขยับตัวอย่างระมัดระวัง เพราะพื้นดินเต็มไปด้วยกลีบกุหลาบสีแดง เธอค่อยๆ นั่งลงไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า
เย่เชินหลิน ขอบคุณนะ เธอรู้สึกซาบซึ้งใจ
หนึ่ง สอง……เซี่ยชีหรั่นเริ่มนับ 999 ดอก เชินหลิน เราจะรักกันตลอดไปใช่ไหม?
เธอเงยหน้ามองเย่เชินหลิน เขาก็พยักหน้าตอบเธอเบาๆ และดูเหมือนเขาจะรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นคิดอะไรอยู่
“เชินหลิน” เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นและทิ้งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เชินหลิน เธอพิงอยู่กลางอกเขา ความเงียบในตอนนี้ทำให้เย่เชินหลินรู้สึกงดงามมาก
ดอกกุหลาบที่เบิกบานเหล่านั้นเป็นพยานถึงความสุขของทั้งสอง
“ที่รัก” เย่เชินหลินปลอบโยนเซี่ยชีหรั่นอย่างนุ่มนวล มือกว้างใหญ่ของเขาลูกผมเธออย่างเบาๆ
เซี่ยชีหรั่นจูบปากของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินก็จูบตอบเธอ หลังจากนั้นไม่นานไฟก็เริ่มร้อนแรงขึ้น
“ที่รัก ไปพักผ่อนเถอะ” เขาเกรงว่าถ้าปล่อยอารมณ์ต่อไปคงไม่จบแค่นี้แน่นอน
เซี่ยชีหรั่นก้มหน้าเดินออกไปและคิดในใจว่า เย่เชินหลินคุณไม่เป็นใช่ไหม
เช้าวันรุ่งขึ้นเย่เชินหลินให้สาวใช้ดูแลเซี่ยชีหรั่นเป็นพิเศษ ส่วนเขาต้องรีบเข้าไปในบริษัท เพราะวันนี้มีการประชุมการพัฒนาโครงการใหม่ในรอบปีของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป จึงทำให้เขาในช่วงนี้ค่อนข้างงานยุ่งและวุ่นวาย
เซี่ยชีหรั่นถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงเรียกเข้าจากฝู้เฟิ่งหยี

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset