สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 955 สาวใช้ตัวแสบ 859

ตอนที่ 955 สาวใช้ตัวแสบ 859
ระหว่างทางเซี่ยชีหรั่นคิดในใจว่าจะไปปรากฏตัวต่อหน้าเย่เชินหลินอย่างไรโดยที่ต้องใส่ชุดนี้? เซี่ยชีหรั่นพยายามมองชุดเซ็กซี่สองชุดที่สุดแสนอลังการนั้นและไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่
“รีบไปเถอะ กินข้าวเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ?” เซี่ยชีหรั่นถูกจิ่วจิ่วไล่เข้าไปในห้องนอนของเธอกับเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นปิดผ้าม่านแล้วเปิดไฟในห้อง จากนั้นเธอก็สวมใส่ชุดชั้นในเซ็กซี่นั้นแล้วมองดูผู้หญิงในกระจก นั่นใช่เธอจริงๆ หรือ? ผู้หญิงคนนี้ใช่เธอจริงๆ หรือ?
คำตอบนี้คงต้องถามเย่เชินหลินจริงๆ
เย่เชินหลินเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน เขาได้เห็นจิ่วจิ่วจ้องมองไปที่ห้องเขาอย่างมีพิรุธและเธอไม่ได้สังเกตแม้กระทั่งเย่เชินหลินเดินมาถึงข้างหลังเธอ จนกว่าเหยนชิงเหยียนเข้ามาสะกิดเธอถึงรู้ตัวว่าด้านหลังเธอมีคนสองคนยืนอยู่
“อ้อ ไหนๆ คุณเย่ก็มาแล้ว หนูมีเรื่องอยากบอกคุณหน่อย คือว่าชีหรั่นมีของขวัญจะให้คุณ แต่ว่าตอนนี้คุณเย่อาจจะดูยุ่งๆ หน่อย เดี๋ยวรอสายๆ เธอจะให้คุณเย่เอง” เสียงพูดจิ่วจิ่วเบาลงเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรเย่เชินหลินก็ดูเหมือนอารมณ์ดี เขาคงไม่ลืมเธอ สักวันเขาต้องยกย่องเธอแน่
“แล้วชีหรั่นอยู่ไหน?” เย่เชินหลินถามในสิ่งที่เขาอยากรู้ที่สุด
“ตอนนี้อยู่ในห้องค่ะ คุณเข้าไปสิ” จิ่วจิ่วเชื่อว่าเย่เชินหลินต้องชอบของขวัญนั้นแน่นอน ชีหรั่น เธอต้องมีความสุขนะ
ทันทีที่เย่เชินหลินเปิดประตูเข้าไปก็ได้เห็นเซี่ยชีหรั่นสวมชุดนอนเซ็กซี่หรูหรานั้นและกำลังยืนส่องกระจกอยู่พอดี ภาพนี้ทำให้เย่เชินหลินเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย เขาพยายามระงับปฏิกิริยาความรู้สึกที่ธรรมชาติที่สุดของร่างกาย?
เมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินเสียงเปิดประตูก็หันกลับมาทันที สองมือเธอปิดหน้าอกไว้ เย่เชินหลินปิดประตูลง ขณะนี้เย่เชินหลินต้องการเห็นเซี่ยชีหรั่นที่เป็นแบบนี้เพียงเขาคนเดียวเท่านั้น เขาไม่ใจกว้างพอที่จะให้คนอื่นมาเห็นผู้หญิงที่เขาชอบ
ที่รัก นี่คุณกำลังเปลือยกายเพื่อล่อใจผมอยู่นะ
ทุกย่างก้าวของเย่เชินหลินทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้ไม่เคยเห็นเซี่ยชีหรั่นในแบบนี้มาก่อน แต่ด้วยชุดที่เธอสวมอยู่และเรือนร่างที่อยู่ใต้เสื้อผ้านั้นทำให้เลือดในร่างกายเขาสูบฉีดแรงขึ้น เย่เชินหลินดึงเธอมากอดไว้ทันที เขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปแล้ว
ใบหน้าเซี่ยชีหรั่นเต็มไปด้วยรอยยิ้มในขณะที่เย่เชินหลินโอบกอดเธออยู่ วิธีนี้ค่อนข้างได้ผลจริงๆ เธอเม้มปากอย่างมีความสุขและหวังว่าเขาจะถาโถมเข้ามา
“ที่รัก” เย่เชินหลินพูดเบาๆ เกรงว่าจะรบกวนความสงบ ณ ตอนนั้น
อากาศที่เต็มไปด้วยลมหายใจ
เซี่ยชีหรั่นพยายามจูบปากของเย่เชินหลิน แต่ก่อนที่ริมฝีปากของเธอจะสัมผัสเขา เย่เชินหลินก็ได้เริ่มจู่โจมและจูบปากแดงๆ ของเธอก่อนแล้ว
ศึกใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น
จิ่วจิ่วรอตั้งนานแต่ก็ไม่มีใครออกมา ดูเหมือนว่าคู่นี้จะเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความเร่าร้อนแล้วสินะ
“ที่รัก คุณหอมจัง” เย่เชินหลินหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูด
“เย่เชินหลิน คุณไม่ชอบฉันใช่ไหม?” จนผ่านไปครู่หนึ่งแล้วเย่เชินหลินได้แต่ลิ้มลองและไม่คิดจะทำอะไรมากกว่านั้นเลย
“ผมจะไม่ชอบใครก็ได้ แต่ผมจะไม่ชอบคุณไม่ได้” เย่เชินหลินตอบอย่างรวดเร็ว
“งั้นคุณทำไมไม่แตะต้องฉันเลยล่ะ ชุดชั้นในที่เร้าอารมณ์แบบนี้ไม่ล่อใจคุณเลยเหรอ? ทำไมรู้สึกเหมือนคุณไม่มีอารมณ์เลย” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างขมขื่น “หรือว่าฉันกลายเป็นคนขี้เหร่ไปแล้ว? หรือว่าฉันขี้เกียจเกินไปใช่ไหม?”
เมื่อเย่เชินหลินได้ยินคำพูดของชีหรั่นแล้วจึงเข้าใจว่าทำไมช่วงนี้เธอถึงไม่ปกติ ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นห่วงสภาพร่างกายของเซี่ยชีหรั่นแล้วเขาคงไม่ปล่อยไว้นานขนาดนี้หรอก
เมื่อคนสวยพูดเช่นนี้แล้วเขาก็ต้องทำด้วยความเต็มใจ
สิ่งที่เย่เชินหลินคิดมาตั้งนานได้ทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ตามคำเชิญชวนของเซี่ยชีหรั่น เธอจำไม่ได้เลยว่าศึกสงครามบนเตียงครั้งนี้กินเวลาไปนานเท่าไหร่ เย่เชินหลินยังคงนอนอยู่ข้างๆ เธอในขณะที่เธอตื่น!
ความรู้สึกแบบนี้มันช่างดีเหลือเกิน!
การได้มองคนรักมันคือความสุขอย่างหนึ่ง
ค่ำคืนนี้คนในบ้านตระกูลเย่ถูกบังคับให้ต้องฟังเสียงหัวใจที่เต้นระรัวตลอดทั้งคืน ค่ำคืนนี้เซี่ยชีหรั่นเพิ่งรู้ว่าปกติแล้วเย่เชินหลินเป็นคนอ่อนโยนมากแค่ไหน เมื่อเซี่ยชีหรั่นกำลังจะหลับ เสียงกระซิบที่กระตือรือร้นและความต้องการที่ไม่มีวันเพียงพอของเย่เชินหลินยังคงดังอยู่ข้างหูเธอ “ที่รัก เอาคุณเท่าไหร่ก็ไม่มีวันพอ”
เซี่ยชีหรั่นถูกทรมานจนอ่อนล้า เธอไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะตอบเย่เชินหลินคำเดียว เธอหลับตาลงแล้วนอนหลับไปอย่างเงียบๆ และปล่อยให้เย่เชินหลินต้องอยู่คนเดียว
เย่เชินหลินมองไปที่ใบหน้าบอบบางที่นอนอยู่ข้างเขา ตอนนี้หัวใจของเขาซับซ้อนจนไม่สามารถบรรยายได้ เขาคิดถึงตัวเล็กเย่เจิ้งเหิงที่จากไป ลูกรัก ลูกไม่โทษพ่อใช่ไหม? พ่อไม่ใช่พ่อที่ดีของลูก แต่พ่อทิ้งแม่ชีหรั่นไม่ได้จริงๆ
เช้ามืดเยือนเร็วกว่าที่ผ่านมา ครั้งแรงที่เซี่ยชีหรั่นลืมตาตื่นขึ้นมาเธอสัมผัสกับร่างกายที่อบอุ่นข้างเธอแล้วนอนต่อไปอย่างสบาย หลังจากนั้นเธอไม่รู้สึกเลยว่าเย่เชินหลินได้ลุกจากเตียงไปแล้ว
ในความฝัน เซี่ยชีหรั่นเห็นเย่เชินหลินตะคอกใส่เธอ ความโกรธบนใบหน้าของเขาไม่ใช่ของปลอมเลย มันรุนแรงกว่าตอนที่ตัวเล็กเย่เจิ้งเหิงจากไปด้วยซ้ำ เซี่ยชีหรั่นอยากถามเย่เชินหลินว่าทำไมเขาถึงโกรธขนาดนี้ แต่เธอยังไม่ทันพูดส้งหลิงหลิงก็ได้ออกมาปรากฏต่อหน้าเธอ เธอมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างเคร่งขรึมแล้วตะโกนพูดกับเซี่ยชีหรั่นว่าเธอจะแก้แค้นเธอ เธอจะใช้โม่เสี่ยวหนงและโม่เสี่ยวจุนมาแก้แค้นเซี่ยชีหรั่น
“ไม่ นี่ไม่ใช่ความจริง” เซี่ยชีหรั่นตะโกนกรีดร้องและอยากหนีออกไปให้ไกล เธอรีบถอดรองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่ แต่พยายามถอดสองครั้งถึงจะสำเร็จ จากนั้นเธอวิ่งหนีออกไปอย่างสุดกำลัง นั่นคือความคิดเดียวของเซี่ยชีหรั่นในเวลานี้ เธอไม่รู้ว่าเธอวิ่งมานานแค่ไหนแล้ว แต่เธอจะวิ่งจนกว่าจะมองไม่เห็นส้งหลิงหลิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ เซี่ยชีหรั่นค่อยๆ หยุดวิ่งแล้วหายใจหอบอย่างหนัก เธอรู้สึกเมื่อยขาจนแทบยืนต่อไม่ไหว เธอเพิ่งจะพบเห็นสถานที่ที่เธอสามารถหยุดพักได้ เธอนั่งลงแล้วรู้สึกโล่งใจสักที ในที่สุดก็สามารถหลุดพ้นจากส้งหลิงหลิงที่พยายามจะสังหารเธอทั้งเป็นแล้ว
เซี่ยชีหรั่นไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชินหลินถึงต้องโกรธเธอขนาดนี้ ต่อให้เธอจะคิดมากจนหัวระเบิดก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี แล้วความสัมพันธ์เมื่อคืนมันไม่ใช่เรื่องจริงเลยใช่ไหม?
เธอพยายามอย่างเต็มที่แต่ก็ไม่สามารถคิดหาสาเหตุนั้นได้ ไหนๆ ก็ไม่เข้าใจแล้ว เซี่ยชีหรั่นตัดสินใจว่าจะไม่คิดอีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนและพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเลย เธอไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน เซี่ยชีหรั่นตั้งใจจะออกไปจากสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหมอกหนานี้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
แต่เดินได้เพียงไม่กี่ก้าว เซี่ยชีหรั่นก็มองเห็นผู้คนมากมายซึ่งยืนอยู่ที่ไกลๆ คนเหล่านั้นกำลังหัวเราะและพูดคุยกัน เธออยู่ห่างจากพวกเขามาก มองไม่ชัดว่าคนเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่และไม่ได้ยินพวกเขาคุยอะไรกันด้วย
เซี่ยชีหรั่นก้มลงถือรองเท้าแล้วเดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกประหม่าโดยไม่มีเหตุผล
นั่นเป็นคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งกำลังอยู่ในพิธีงานแต่ง
“ขออวยพรให้คู่บ่าวสาวรักกันตลอดไป” เสียงอวยพรดังขึ้นลอยอยู่บนท้องฟ้าเป็นเวลานาน เซี่ยชีหรั่นยังให้พรที่จริงใจที่สุดแก่คู่บ่าวสาวคู่นี้
ไม่รู้ว่าใครส่งแก้วไวน์ให้เซี่ยชีหรั่นแล้วให้เธอออกไปแสดงความยินดีด้วย เซี่ยชีหรั่นไม่อยากไปแต่เมื่อนึกถึงคนที่เพิ่งแต่งงานกันเธอจึงไม่อยากทำให้คนอื่นต้องผิดหวัง เธอหยิบแก้วไวน์อย่างโง่เขลาแล้วเดินเข้าไปหาบ่าวสาวคู่นั้นและยกแก้วไวน์ขึ้น
“ยินดีกับทั้งสองด้วยนะคะ”
คำอวยพรที่เหลือที่ยังไม่ได้พูดและเธอยังไม่ทันพูดออกมา คำเหล่านั้นก็ได้ติดอยู่ในลำคอของเซี่ยชีหรั่นเหมือนก้างปลาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะเธอได้มองเห็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคยทั้งสอง หนึ่งคือเย่เชินหลินคนที่เธอรักมากที่สุด ส่วนอีกคนคือจงหยุนซางซึ่งเป็นพี่สาวที่เธอเคารพรักที่สุดเหมือนกัน แล้วพวกเขาแต่งงานกันได้อย่างไร? เป็นครั้งแรกที่เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าชีวิตของเธอนั้นมืดมนแปดด้าน ไม่มีแม้แต่แสงอันริบหรี่เลย
“ไม่ ไม่ได้” เซี่ยชีหรั่นกรีดร้อง “พวกคุณแต่งงานกันไม่ได้” เธอบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร เธอรู้แค่ว่าเย่เชินหลินนั้นเป็นของเธอ เซี่ยชีหรั่นเริ่มกลัวชีวิตที่ปราศจากเย่เชินหลินทันที
เย่เชินหลินมองเธอด้วยสายตาเย็นชา เหมือนเขากำลังมองคนแปลกหน้าอยู่ จงหยุนซางก็มองหน้าเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่พอใจ มุมปากของเธอเต็มไปด้วยความประชด การแสดงออกที่พวกเธอสองคนควรมีอย่างสันตินั้นแตกต่างกับชีวิตจริงมาก
ทั้งสองเริ่มแลกเปลี่ยนแหวนท่ามกลางการอวยพรจากทุกคน มืออันกว้างใหญ่ของเย่เชินหลินวางอยู่ที่เอวอันบอบบางของจงหยุนซาง เซี่ยชีหรั่นมองทั้งสองที่เริ่มกอดกันด้วยความเหลือเชื่อ คนหนึ่งคือพี่สาวของเธอ ส่วนอีกคนคือคู่หมั้นของเธอ ทั้งสองเดินเข้าไปในพิธีงานแต่งต่อหน้าต่อตาเธอ! ดวงตาของเซี่ยชีหรั่นเบิกกว้าง ไม่ได้ เธอต้องหยุดยั้งงานแต่งนี้
“เชินหลิน เธอเป็นพี่สาวของฉันนะ!” เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลินด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น ไม่ใช่แค่น้ำตาคลอเบ้า แต่ ณ ตอนนี้หัวใจของเธอเจ็บปวดจนชาไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นหวังว่าเย่เชินหลินจะได้ยินในสิ่งที่เธอพูด!
“เซี่ยชีหรั่น ฉันไม่ใช่พี่สาวของเธอ เชินหลิน เราไปกันเถอะ” ด้วยรอยยิ้มอันเป็นผู้ชนะบนใบหน้าของจงหยุนซางในชุดแต่งงานที่งดงามพร้อมกับเย่เชินหลินในชุดสูทและรองเท้าหนัง ภาพเงาของเขาทั้งสองค่อยๆ จางหายไปในสายตาของเซี่ยชีหรั่น
“ไม่ ไม่นะ” เซี่ยชีหรั่นกรีดร้องแล้วลุกขึ้นนั่งทันที ที่แท้มันก็แค่ความฝัน แต่เป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก มากจนถึงจุดที่เซี่ยชีหรั่นคิดว่าทั้งหมดนี้ได้เกิดขึ้นจริง ที่นอนของเย่เชินหลินเย็นไปนานแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นไปสักพักแล้ว
เซี่ยชีหรั่นนอนต่อไม่ไหวแล้ว เธอจึงลุกจากเตียงแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง รอยยิ้มแสยะของส้งหลิงหลิงยังคงอยู่ในดวงตาเธอตลอดและภาพของจงหยุนซางในชุดงานแต่งยังคงหมุนเวียนในหัวเธอ เซี่ยชีหรั่นตัดสินใจว่าจะไปหาเย่เชินหลิน เธอต้องลืมเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เซี่ยชีหรั่นเตือนตัวเองซ้ำๆ ว่านี่เป็นเพียงความฝันเท่านั้น
บังเอิญวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เย่เชินหลินจึงไม่ได้ไปทำงาน เธอแค่ถามสาวใช้คนหนึ่งก็รู้ว่าเย่เชินหลินอยู่ในห้องทำงานของเขา เธอจึงคิดว่าจะเข้าไปหาเขา
เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่นอกประตูแล้วคิดว่าจะเคาะก่อนหรือเข้าไปเลย เขาคงไม่ได้ยุ่งอยู่ในนั้นนะ? ถ้าเข้าไปแล้วจะรบกวนเขาไหมนะ?
“คุณเย่ครับ หมอวินิจฉัยว่าส้งหลิงหลิงเป็นโรคจิตหวาดระแวงแล้วครับ ตอนนี้ต้องส่งตัวไปโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อรับการรักษา เพราะในโรงพยาบาลอุปกรณ์ทางการแพทย์จะพร้อมกว่าและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ” เสียงผู้ชายดังเข้ามาในแก้วหูของเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่ทันระวัง ส้งหลิงหลิงป่วยทางจิตหรือ? เธอคิดว่าตัวเองจะมีความสุข เพราะการที่ส้งหลิงหลิงเจ็บป่วยทางจิตนั่นหมายความว่าเธอจะไม่สามารถกลับมาทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับเย่เชินหลินอีก แต่ถ้าส้งหลิงหลิงไม่ได้รับการรักษาที่ดี ชีวิตที่เหลือต้องอยู่กับความเจ็บป่วยแบบนี้ไปตลอด เซี่ยชีหรั่นกลับรู้สึกสงสารเธอ!
ความชั่วที่ส้งหลิงหลิงเคยทำกับเซี่ยชีหรั่นนั้นแค่คิดก็ยอมรับมันไม่ได้แล้ว แต่เมื่อเซี่ยชีหรั่นกลับมาไตร่ตรองแล้ว สุดท้ายจุดจบของส้งหลิงหลิงก็เป็นได้แค่ผู้หญิงที่น่าสงสารคนหนึ่งเท่านั้น
ตอนนี้เธอเป็นบ้าไปแล้ว ไม่มีลูกแถมยังป่วยทางจิตอีก เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถใจแข็งและไม่สนใจเธอได้ บางทีถ้าจิ่วจิ่วรู้เข้าคงจะตำหนิเธอแย่เลย
เสียง ‘แกร๊ก’ เซี่ยชีหรั่นเปิดประตูเข้าไป
“ชีหรั่น?” เย่เชินหลินที่กำลังจะพูดก็หันไปมองเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่คาดคิด เธอมีธุระหรือ? หมอที่ยืนอยู่ตรงข้ามเย่เชินหลินก็มองไปที่เซี่ยชีหรั่น หลังจากเขาได้สังเกตก็รู้ว่าเธอคือคนสำคัญของคุณเย่แน่นอน เขาจึงยิ้มแล้วพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อทักทายเซี่ยชีหรั่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset