สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 960 สาวใช้ตัวแสบ 864

ตอนที่ 960 สาวใช้ตัวแสบ 864
“คุณพ่อคุณแม่คะ งั้นหนูไปพักผ่อนก่อนนะคะ” เซี่ยชีหรั่นเพิ่งพูดจบ ก่อนที่จะหันหน้าเดินจากไปเธอก็เห็นสีหน้าของเย่เฮ่าหรันผิดปกติ
“คุณพ่อเป็นอะไรเหรอคะ?” เธอก้าวเข้าไปหาเย่เฮ่าหรัน อยากจะรู้ว่าเขาเป็นอะไร แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ จึงเงยหน้ามองฝู้เฟิ่งหยี
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ฝู้เฟิ่งหยีไม่ได้สังเกตเย่เฮ่าหรัน ดังนั้นเธอจึงไม่ทันเห็นสีหน้าอันเจ็บปวดที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ลงไปกันก่อนเถอะ ผมไม่เป็นไร” เย่เฮ่าหรันพูดอย่างจริงจัง คนทั่วไปจะมองไม่เห็นความคิดที่แท้จริงของเขา
เซี่ยชีหรั่นเดินไปคิดไป โดยปกติแล้วเย่เฮ่าหรันดูแข็งแรงไม่มีโรคภัย แต่การแสดงออกเมื่อครู่นี้ เธอไม่กล้าคิดไปมากกว่านี้ แต่เธอคิดว่าจะลองบอกเย่เชินหลินเรื่องนี้ เพราะถึงอย่างไรแล้วเย่เฮ่าหรันก็ยังเป็นพ่อของเขาอยู่ดี เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ส้งหลิงหลิงที่อยู่ในโรงพยาบาลเป็นยังไงบ้างแล้ว บางทีเซี่ยชีหรั่นก็สงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอเป็นคนใจดีขนาดนี้ แม้เวลานี้แล้วยังเป็นห่วงส้งหลิงหลิงอยู่
ช่วงนี้เย่เชินหลินกำลังยุ่งอยู่กับธุระต่างๆ ครอบครัวตระกูลเย่ต่างก็ยุ่งกับเรื่องของเหยนชิงเหยียนและจิ่วจิ่วก็ยุ่งกับการดูแลเหยนชิงเหยียนด้วย ส่วนเซี่ยชีหรั่นกลายเป็นคนว่างงานอยู่คนเดียว เธอนึกถึงสถานการณ์ของเย่เฮ่าหรันในวันนั้น จึงเข้าไปเสิร์ชหาข้อมูลอาหารบำรุงในอินเตอร์เน็ตเพื่อหวังว่าจะได้ช่วยเย่เฮ่าหรันบำรุงร่างกาย
เหยนชิงเหยียนยังไม่สามารถยืนขึ้นได้ หมอแนะนำว่าควรให้พักฟื้นในโรงพยาบาลจะดีกว่า ฝู้เฟิ่งหยีจึงไม่ได้ปฏิเสธและให้เขาทำตามที่หมอแนะนำ
โรงพยาบาลที่ส้งหลิงหลิงถูกส่งไปรักษานั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลที่เหยนชิงเหยียนเข้ารักษาอยู่ เซี่ยชีหรั่นมาเยี่ยมเหยนชิงเหยียนในวันนั้น เธอก็ได้เห็นโรงพยาบาลจิตเวชที่คุ้นเคยอยู่ไม่ไกล เธอตั้งใจอยากจะเข้าไปเยี่ยมส้งหลิงหลิงเพื่อนำของใช้ให้เธอ เพราะหลินต้าฮุยจัดให้คนอื่นช่วยดูแลเธอแทน จึงไม่รู้ว่าส้งหลิงหลิงที่เคยเป็นลูกคนหนูคนนี้จะปรับตัวได้หรือเปล่า
เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ชั้นล่างของโรงพยาบาลจิตเวช เธอไม่รู้ว่าถ้าขึ้นไปตอนนี้จะรบกวนการพักผ่อนของส้งหลิงหลิงหรือไม่
ในขณะนี้ส้งหลิงหลิงนั่งอยู่บนเตียงแล้วเอามือกุมศีรษะของเธอไว้ตลอดเวลา ชื่อของผู้คนมากมายยังคงปรากฏอยู่ในความคิดของเธอ เย่เชินหลิน เย่จื่อห้าน เซี่ยชีหรั่น จิ่วจิ่ว เหยนชิงเหยียน เธอไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ส้งหลิงหลิงจำตัวเองไม่ได้และเธอฝันถึงคนเหล่านี้ทุกวัน พวกเขาไม่เคยใจดีกับเธอเลย แล้วเด็กคนนั้นคือใครกันแน่?
เธอกุมศีรษะแล้วกลิ้งไปมาบนเตียง จนกระทั่งตกลงมาจากเตียงเธอก็ไม่รู้สึกเจ็บหรืออย่างไร
“พวกคุณคือใคร แล้วฉันคือใคร?” ส้งหลิงหลิงเอาแต่ถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ !
“ฮัลโหล ว่าไงจิ่วจิ่ว?” ก่อนที่เซี่ยชีหรั่นจะเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยนั้น เธอก็ได้รับสายจากจิ่วจิ่ว
“ชีหรั่น ฉันมีข่าวดีจะบอก ตอนนี้คุณหมอบอกว่าเขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว” เสียงที่ร่าเริงของจิ่วจิ่วยังนำความชื่นชมยินดีมาสู่เซี่ยชีหรั่น
“หมายความว่าเขาดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ ยินดีด้วยนะ ไม่งั้นจิ่วจิ่วของเราคงต้องกินไม่ได้นอนไม่หลับไปตลอดแน่เลย” เซี่ยชีหรั่นไม่ทันได้สังเกตว่าส้งหลิงหลิงไม่ได้นอนอยู่บนเตียง
ทั้งสองคุยกันทางโทรศัพท์และไม่คิดว่าส้งหลิงหลิงจะได้ยินเสียงสนทนาของพวกเธอเลย
ส้งหลิงหลิงเบิกตากว้างและมองไปที่เซี่ยชีหรั่น เธอคนนี้คือผู้หญิงในความฝันไม่ใช่หรือ? เธอมาทำอะไรที่นี่ จริงด้วยเซี่ยชีหรั่น เธอชื่อเซี่ยชีหรั่น ส้งหลิงหลิงกุมศีรษะไว้แล้วกลิ้งไปมาบนพื้น จนกระทั่งหัวเธอไปชนกับเตียงแล้วส่งเสียงดังขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นที่กำลังคุยสายอยู่ถึงกับตกใจและเพิ่งสังเกตเห็นเธอ
“จิ่วจิ่ว เดี๋ยวเย็นนี้ค่อยฉลองกันนะ เหมือนส้งหลิงหลิงอาการกำเริบ ฉันจะเข้าไปดูเธอก่อน ไม่รู้ว่าบาดเจ็บหรือเปล่า” เซี่ยชีหรั่นวางสายลงแล้วผลักประตูเข้าไปทันที ส้งหลิงหลิงจะเป็นอะไรไหม
จิ่วจิ่วมองดูโทรศัพท์ที่เพิ่งถูกตัดสายนั้น เธอรู้สึกกังวลเซี่ยชีหรั่นมาก ยัยบื้อคนนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่าส้งหลิงหลิงไม่ใช่คนดี แต่เธอก็ยังไปหาเธออีก บางทีอาจจะเป็นเพราะความดีของเธอที่ทำให้คุณเย่รักเธอมากขนาดนี้
เซี่ยชีหรั่นวางโทรศัพท์ลงบนพื้นแล้วพยายามพยุงส้งหลิงหลิงให้ลุกขึ้น แต่ส้งหลิงหลิงกลับมองเห็นรูปของเย่เชินหลินบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ ผู้ชายคนนี้ ดวงตาหมองคล้ำของส้งหลิงหลิงเริ่มเปลี่ยนไป
“คุณมาทำอะไรที่นี่?” ส้งหลิงหลิงถามอย่างชัดเจน เมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกที่รู้สึกประหลาดใจของเซี่ยชีหรั่น ส้งหลิงหลิงครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าควรทำอย่างไรต่อ เธอกุมหัวแล้วนั่งลงอีกรอบ สำหรับเซี่ยชีหรั่นแล้ว ส้งหลิงหลิงคิดว่าต้องใช้ความขมขื่นจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด
เซี่ยชีหรั่นยังไม่รู้ถึงกับดักที่คนอื่นวางไว้และเธอยังถามด้วยความเป็นห่วง “ส้งหลิงหลิง คุณเป็นอะไรไหม?”
“บอกมาว่าคุณมาทำอะไรที่นี่?” ส้งหลิงหลิงมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างเคร่งขรึม การแสดงออกบนใบหน้าของเธอเจ็บปวดมากและเธอก็กำลังทุกข์ทรมานอย่างแท้จริง ตอนนี้สมองเธอเลอะเลือนไปหมด
“ใจเย็นก่อน ฉันแค่แวะมาหาคุณ” เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกมาเพื่อปลอบโยนส้งหลิงหลิง เพราะเธอเป็นผู้ป่วย เซี่ยชีหรั่นจึงพยายามอดทนต่อเธอเป็นพิเศษ
“แวะมา?” ส้งหลิงหลิงมองไปที่เซี่ยชีหรั่นด้วยความสงสัย
“เหยนชิงเหยียนไม่สบายเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลข้างหน้านี้” เซี่ยชีหรั่นชี้ไปที่โรงพยาบาลตรงข้ามผ่านหน้าต่าง เนื่องจากการจัดเตรียมของหลินต้าฮุย ส้งหลิงหลิงจึงได้พักรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยที่ดีที่สุดของโรงพยาบาล ซึ่งห้องนี้อยู่ในตำแหน่งตรงข้ามของโรงพยาบาลที่เหยนชิงเหยียนเข้ารักษาพอดี จึงสามารถมองเห็นป้ายของโรงพยาบาลได้อย่างชัดเจน
เมื่อส้งหลิงหลิงเห็นโรงพยาบาลนั้นและได้ยินชื่อของคนเหล่านี้ เย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่น ตอนนี้เธอแทบจะหายเป็นปกติแล้ว
หมอบอกหลินต้าฮุยว่าอาการป่วยของส้งหลิงหลิงเกิดจากอาการซึมเศร้าของสภาพจิตใจ ถ้าได้รับการกระตุ้นความทรงจำอาจทำให้เธอหายดีได้และดูเหมือนเป็นอย่างที่หมอได้กล่าวไว้ไม่ผิด
ส้งหลิงหลิงมองไปที่เซี่ยชีหรั่น เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถให้เซี่ยชีหรั่นรู้ได้ว่าเธอแทบจะหายดีแล้ว เธอต้องการจะไปจากที่นี่ แต่เมื่อคิดถึงแผนที่คุยกันไว้ เธอต้องไล่เซี่ยชีหรั่นออกจากที่นี่ไปก่อนและต้องได้รับอนุญาตจากเขาคนนั้นด้วย มิฉะนั้นไม่รู้ว่าวันนี้ความลับของเหยนชิงเหยียนจะถูกเปิดเผยหรือไม่
“เธอออกไป ไปให้พ้น ฉันไม่ต้องการเธอ” ส้งหลิงหลิงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง การแสดงออกบนใบหน้าของเธอนั้นมาจากใจจริง
เซี่ยชีหรั่นมองส้งหลิงหลิงที่กำลังส่งเสียงตะโกนและร้องไห้ เมื่อนึกถึงเธอที่กุมหัวอยู่เมื่อครู่นี้ เซี่ยชีหรั่นจึงไม่อยากกระตุ้นความรู้สึกของส้งหลิงหลิงอีก
“โอเคๆ ฉันจะไป เธอใจเย็นก่อน คุณพยาบาล คุณพยาบาล” เซี่ยชีหรั่นค่อยๆ ถอยออกไปและยังช่วยส้งหลิงหลิงเรียกหมอ ส้งหลิงหลิงมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างเย็นชา เธอคิดว่าเรียกหมอให้ฉันแล้วฉันจะทราบซึ้งใจหรือ? ฝันไปเถอะ ความแค้นของเราไม่จบลงง่ายๆ แบบนี้หรอก
พยาบาลได้เร่งเข้ามาถึง
“คุณพยาบาลคะ ช่วยดูอาการเธอให้หน่อยค่ะ” เซี่ยชีหรั่นพูดกับพยาบาลอย่างสุภาพและจริงใจ
“ได้ค่ะ” พยาบาลตัวน้อยกำลังจะเอื้อมมือไปดึงส้งหลิงหลิงกลับไปบนเตียง แต่ไม่คิดว่าส้งหลิงหลิงกลับตบหน้าพยาบาลอย่างจัง เธอไม่มองพยาบาลที่กำลังร้องไห้อยู่ แต่มองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างโหดเหี้ยม ถ้าเธอยังไม่รีบกลับฉันก็จะตบมันแบบนี้ เซี่ยชีหรั่นสังเกตสีหน้าของเธอและบวกกับความเข้าใจที่มีต่อส้งหลิงหลิง เธอจึงมองไปที่พยาบาลตัวน้อยอย่างทำตัวไม่ถูกแล้วรีบจากไป
หลังจากเซี่ยชีหรั่นออกไป ส้งหลิงหลิงไม่ร้องไห้หรือสร้างปัญหาใดๆ เธอกลับขึ้นไปบนเตียงเองและไม่ได้หันมองพยาบาลที่กำลังหลั่งน้ำตาเลยแม้แต่นิด เธอกำลังกลุ้มใจอยู่ว่าเรื่องของเหยนชิงเหยียนจะถูกเปิดเผยออกไปหรือไม่ เขาป่วยหรือ แล้วป่วยเป็นโรคอะไร
ฝู้เฟิ่งหยีเป็นคนมาทำเรื่องออกโรงพยาบาล เย่เฮ่าหรันติดธุระมาไม่ได้ เธอจึงให้พ่อบ้านมากับเธอ
“ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” ฝู้เฟิ่งหยีจับมือลูกชายแล้วแสดงความขอบคุณหมออย่างจริงใจ
หมอส่ายหัวแล้วอ้าปากทำทีท่าว่าจะพูด แต่ก็ลังเล เพราะเรื่องนี้น่าแปลกใจจริงๆ เขาไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่
“มีเรื่องอะไรเชิญพูดได้ค่ะ” ฝู้เฟิ่งหยียิ้มพูดกับหมอ เธอค่อนข้างอารมณ์ดีเพราะอาการของเหยนชิงเหยียนดีขึ้น
“กรุ๊ปเลือดของคุณผู้ชายคนนี้แปลกจริงๆ ครับ”
“กรุ๊ปเลือดของคุณนั่นแหละที่แปลกมาก” จิ่วจิ่วพูดอย่างเสียงดัง เธอจับมืออีกข้างของเหยนชิงเหยียนแล้วพูด “คุณแม่คะ เราไปกันเถอะ โลกใบใหญ่ขนาดนี้จะกรุ๊ปเลือดอะไรก็มีหมด”
ฝู้เฟิ่งหยีมองไปที่แพทย์ของเหยนชิงเหยียนและหวังว่าเขาจะพูดอะไรที่เป็นประโยชน์
“ผู้อำนวยการต้องการพบคุณด่วนค่ะ” เขายังไม่ทันพูดก็มีสาวพยาบาลคนหนึ่งรีบเข้ามาขัดจังหวะและเธอได้สังเกตสีหน้าของฝู้เฟิ่งหยีกับเซี่ยชีหรั่นเป็นพิเศษ เมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่มีทีท่าอะไรพยาบาลคนนั้นก็เรียกตัวหมอของเหยนชิงเหยียนไปทันทีโดยที่หมอยังไม่ทันได้พูดอะไร
“ไร้มารยาทจริงๆ” จิ่วจิ่วบ่นพึมพำ
“ไปกันเถอะ” ฝู้เฟิ่งหยีคิดว่าตอนนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าอาการของเหยนชิงเหยียนดีขึ้น เพราะเหยนชิงเหยียนเคยผ่านการตรวจดีเอ็นเอเรียบร้อยแล้ว เธอไม่เคยคิดว่าเหยนชิงเหยียนไม่ใช่ลูกของเธอ
เซี่ยชีหรั่นกลับถึงบ้านก่อนที่ทุกคนจะกลับไปถึง เธอจึงคิดว่าจะให้อาจารย์เหลี่ยวช่วยเตรียมอาหารให้เสร็จก่อน เมื่อทุกคนกลับมาถึงบ้านก็จะได้ทานพร้อมกันเลย
พักหลังนี้เย่เชินหลินงานค่อนข้างยุ่ง จึงไม่มีเวลาให้กับเซี่ยชีหรั่น แต่เธอไม่ได้โทษเขา
เซี่ยชีหรั่นเพิ่งนึกสถานการณ์ของเย่เฮ่าหรันในวันนั้นได้ สองวันนี้เธอยุ่งจนลืมเรื่องนี้ไปแล้ว วันนี้เธอต้องหาเวลาคุยกับเย่เชินหลิน
รอแล้วรออีกเย่เชินหลินก็ยังไม่กลับมา เซี่ยชีหรั่นมองเตียงขนาดใหญ่ที่ว่างเปล่านั้น ไม่รู้สาเหตุใดความฝันอันแปลกประหลาดนั้นก็วนกลับมาในความคิดเธออีกครั้ง
เซี่ยชีหรั่นรอจนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ มองดูเวลาก็เริ่มดึกแล้ว เธอจึงสวมเสื้อผ้าแล้วเตรียมตัวออกไปเดินเล่นคนเดียว จำได้ว่าเย่เชินหลินเคยปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องโถงที่ว่างเปล่าเมื่อเธอเข้ากะกลางคืนในช่วงทำงานตอนนั้น เธอรู้สึกเหงามาก และวันนี้กับวันนั้นก็ไม่แตกต่างอะไรกันเลย มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือตอนนี้เธอไม่ใช่สาวใช้คนนั้นแล้ว
เซี่ยชีหรั่นค่อยๆ เดินไปตามลำพัง เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอยู่ไกลๆ มันเป็นเสียงของหลินต้าฮุย แล้วมีเสียงของโม่เสี่ยวจุนด้วย พวกเขามาทำอะไรกันในที่มืดแบบนี้?
เธอกำลังจะหันหลังกลับไป แต่สงสัยว่าทำไมพวกเขาไม่คุยกันในคฤหาสน์ตระกูลเย่เลย หรือว่าไม่อยากให้ใครได้ยิน
“คุณเย่บอกแล้ว จากนี้ไปพวกเราต้องคอยสะกดรอยตามอาซานและต้องคอยดูพฤติกรรมของมัน ตอนนี้อย่างน้อยเราก็รู้ว่าการเคลื่อนไหวต่อไปของจงหวีฉวนถูกส่งมอบให้กับมันแล้ว” หลินต้าฮุยเป็นมือขวาของเย่เชินหลิน ก็ไม่แปลกที่เขาจะคุยเรื่องนี้กับโม่เสี่ยวจุน
“อืม ผมก็รู้สึกว่าจงหวีฉวนดูเหมือนกำลังจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เหมือนกัน” โม่เสี่ยวจุนครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วค่อยๆ พูด ช่วงที่ผ่านมาเขาได้สังเกตจงหวีฉวนเป็นพิเศษ ซึ่งพบว่าชายคนนี้เจ้าเล่ห์มากและรู้สึกว่าจะจับเบาะแสเกี่ยวกับเขาได้ยาก ถ้าไม่ได้เจอเขาโดยบังเอิญในคืนนั้น โม่เสี่ยวจุนก็ยังคงไม่รู้เรื่อง ต้องขอบคุณไห่ฉิงฉิงที่ช่วยเขา เมื่อคิดถึงไห่ฉิงฉิงแล้ว ใบหน้าของโม่เสี่ยวจุนก็มีความสุขขึ้นมาทันที เขากำลังจะเป็นพ่อคนแล้วและสิ่งนี้ทำให้เขามีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใด
“หวังว่าคุณนายเย่จะไม่ถูกทำร้ายอีกนะ!” หลินต้าฮุยพูดด้วยความเป็นห่วง เขากับหลินหลิงต่างก็คิดเหมือนกัน เมื่อไหร่ที่เซี่ยชีหรั่นถูกทำร้ายคนที่ต้องลำบากก็คือเขาทั้งสอง
เซี่ยชีหรั่นเดินจากไปอย่างเงียบๆ วันนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอได้ยินกับหูตัวเองว่าพ่อแท้ๆ ของเธอกำลังจะทำร้ายเธอ!
ไม่มีใครสามารถรับได้เมื่อรู้ว่าญาติสนิทของตนกำลังคิดทำร้ายตนอยู่ โดยเฉพาะเซี่ยชีหรั่นคนที่เฝ้าคอยความรักจากพ่อมาเสมอ!

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset