สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 964 สาวใช้ตัวแสบ868

ตอนที่ 964 สาวใช้ตัวแสบ868
“พวกคุณหนุ่มสาวไปเดินชอปปิ้งกันก่อนเถอะ วันนี้หล่อนอารมณ์ไม่ดี เดี๋ยวผมจะไปดูเขาเอง”จงหวีฉวนพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย การโกหกสำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก จงหยุนซางมองดูแม่ที่กำลังจากไป เธอนั้นอยากที่จะเดินเข้าไปปลอบ แต่ยังไม่ทันที่จะเดินไป ก็เห็นสายตาของเยว่มู่หลานไกลๆ จงหยุนซางจึงหยุดฝีเท้าลง เธอมองไปที่จงหวีฉวน แล้วก็มองไปที่เย่เชินหลิน ไม่รู้ว่าพ่อของตนกำลังคิดที่จะแยกเซี่ยชีหรั่นออกจากเย่เชินหลินอีกหรือไม่ เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ จงหยุนซางก็พยักหน้า และรับปากว่าจะไปบ้านตระกูลหลี่ แต่ก็หวังว่าการตัดสินใจเช่นนี้ของเธอจะสามารถช่วยเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นได้
เย่เชินหลินนั้นเข้าใจความคิดของจงหยุนซางเป็นอย่างดี เขานั้นพยักหน้าเพื่อแสดงความขอบคุณ
หลังจากที่ทั้งสามคนซื้อของและจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เย่เชินหลินก็เก็บของขึ้นรถหรูของตน
จงหวีฉวนรีบตามเยว่มู่หลานไป เขานั้นคิดไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะง้อหล่อนอย่างไร เขานั้นรั้งแขนของเยว่มู่หลานว้แล้วพรั่งพรูเหตุผลต่างๆนานาออกมา คำพูดที่สวยงามเหล่านั้นก็สามารถที่จะชนะใจเยว่มู่หลานได้ เดิมทีผู้หญิงก็มักที่จะใจอ่อนอยู่แล้ว จงหวีฉวนพูดไม่เท่าไหร่ก็ชนะใจเธอได้แล้ว
เยว่มู่หลานยืนอยู่โซนของเสื้อผ้า กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่อย่างประณีต ผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่รักสวยรักงาม แม้ว่าเยว่มู่หลานจะอายุปูนนี้แล้ว แต่จงหวีฉวนนั้นไม่เหมือนกัน เมื่อเห็นเย่เชินหลินนั้นไปบ้านของตระกูลหลี่ เพราะช่วงนี้เย่เชินหลินนั้นไปบ้านตระกูลหลี่บ่อยครั้งขึ้น เขานั้นครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นาน จงหวีฉวนนั้นเดิมทีก็เป็นคนที่ระมัดระวังตัวอยู่แล้ว เขานั้นกำลังคิดว่าหรือว่าหลี่หมิงจุ้นนั้นจะต้องการที่จะสนับสนุนเย่เฮ่าหรัน หากไม่มีความสัมพันธ์ของเซี่ยชีหรั่นแล้วล่ะก็ การที่หลี่หมิงจุ้นจะสนับสนุนใครนั้นก็ยังไม่อาจที่จะพูดได้ การดำรงอยู่ของจ้าวเหวินอิง เขานั้นก็ไม่อาจที่จะการันตีได้ว่าทุกอย่างจะราบรื่น
จงหวีฉวนนั้นยืนอยู่ชั้นสามเฝ้ามองดูเย่เชินหลินที่กำลังขับรถออกไป เขานั้นคิดว่า ทางที่ดีที่สุดก็คือไม่ให้เย่เฮ่าหรันนั้นเข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ นี่คือวิธีการที่ดีที่สุดแล้ว
เย่เฮ่าหรันนั้นไม่รู้ตัวว่าตนนั้นกำลังถูกจงหวีฉวนเหยียบเพื่อถีบตนไปสู่ตำแหน่งที่กำลังจะเลือกตั้ง เขานั้นนั่งเงียบๆอยู่ในสวนดอกไม้ หลายวันมานี้ร่างกายนั้นไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เย่เฮ่าหรันไม่ได้บอกใครในเรื่องนี้ ใกล้ที่จะถึงวันที่เขานั้นต้องจากไปแล้ว เรื่องของตระกูลเย่นั้นก็ไม่น้อย เขานั้นไม่อยากที่จะให้ใครต้องเป็นกังวล
“พ่อบ้าน เรื่องของเสี่ยวห้านนั้นจัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง?” เย่เฮ่าหรันนั้นมองไปที่พ่อบ้านที่กำลังยกน้ำชามาเสิร์ฟ น้ำเสียงของเขานั้นเบามาก ดีที่พ่อบ้านนั้นหูดี จึงได้ยิน
พ่อบ้านมักรู้สึกว่าเย่เฮ่าหรันนั้นดูแปลกๆ แต่ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ผิดปกติ เขานั้นวางชามาเสิร์ฟไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็รินชาให้กับเย่เฮ่าหรัน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:“คุณท่านเย่ ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องดีใจมากแน่หากได้ฟังเรื่องๆนี้ แต่ว่าคุณนายบอกแล้วว่าจะรอให้เรื่องของคุณนั้นเรียบร้อยเสียก่อนถึงจะจัดการเรื่องงานแต่ง หากทำเช่นนี้แล้วก็คงจะไม่ยุ่งมาก ”
เย่เฮ่าหรันนิ่งเงียบครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นว่า ตอนนี้สุขภาพแม้ว่าจะไม่ได้เลวร้ายมากนัก แต่ว่าเย่เฮ่าหรันนั้นมักจะรู้สึกถึงสัญญาณที่ไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งเขานั้นรู้สึกเช่นนี้มาหลายปีแล้ว ทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เขามักจะประสบกับเรื่องราวที่ไม่ดีไม่เรื่องเล็กก็เรื่องใหญ่ สำหรับครั้งนี้นั้นเย่เฮ่าหรันก็ไม่กล้าที่จะรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่ว่าใครก็อยากที่จะขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจงหวีฉวน คนๆนั้นดูดีแต่ภายนอก แต่ข้างในนั้นเลวร้ายมาก แม้แต่ลูกสาวของตนเองก็แสวงหาผลประโยชน์ได้ เย่เฮ่าหรันนั้นไม่ได้กลัวตาย แต่เขาไม่อยากรีบด่วนจากไปต่างหาก
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเย่เชินหลินนั้นไม่สู้ดีนัก เขานั้นไม่ได้หวังอะไรมาก ใจของเขาหวังเพียงได้ยินเย่เชินหลินเรียกตนว่าพ่อก็เท่านั้น ตอนนี้เขาไม่ได้คิดเช่นนั้นแล้ว ขอเพียงแค่เย่เชินหลินนั้นมีความสุข เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้แล้ว
“คุณลงไปเถอะ”เย่เฮ่าหรันพูดขึ้น เขานั้นอยากที่จะอยู่เงียบๆตามลำพัง
“ท่านเย่ โม่เสี่ยวจุนมาหาคุณเย่ครับ” พ่อบ้านพูดขึ้นอย่างนอบน้อม โม่เสี่ยวจุนบอกว่ามีเรื่องด่วนจะมารายงานคุณเย่ เพราะเขานั้นโทรหาคุณเย่ไม่ติดเลย
แท้ที่จริงแล้วคุณเย่นั้นลืมมือถือไว้บนรถ จึงไม่ได้รับสายโม่เสี่ยวจุน วันนี้นั้นได้มอบหมายให้หลินต้าฮุยกับหลินหลิงนั้นจัดการธุระแทน เขาจึงไม่ได้สนใจกับโทรศัพท์มือถือนัก เรื่องของโม่เสี่ยวจุนนั้นก็ไม่ค่อยสะดวกที่จะพูดกับเขาทั้งสอง เขาจึงทำได้แค่เพียงมาบ้านตระกูลเย่เพื่อรายงานข่าวนี้กับเขาด้วยตนเอง
“พาเขาไปห้องรับแขกก่อน ดูแลแขกให้ล่ะ ” เย่เฮ่าหรันคิดสองสามนาที จากนั้นจึงพูดขึ้น
“ครับ”หลังจากที่พ่อบ้านเดินจากไปไม่นาน แม้ว่าเย่เฮ่าหรันจะรู้ดีว่าตนนั้นยังมีเอกสารที่ต้องจัดการอยู่มาก แต่เขาก็อยากไปต้อนรับโม่เสี่ยวจุนที่ห้องรับแขก การที่เย่เฮ่าหรันคิดเช่นนี้นั้นก็เป็นเพราะโม่เสี่ยวจุนนั้นเป็นแขกของเย่เชินหลิน และก็ถือเป็นพี่ชายของเซี่ยชีหรั่นด้วย
โม่เสี่ยวจุนเดินไปเดินมาในห้องรับแขกอย่างร้อนใจ พ่อบ้านบอกว่าให้เขานั้นนั่งรออยู่ที่นี่ แต่ว่าธุระของเขานั้นมันไม่สามารถที่จะรอได้
เมื่อเขานั้นเห็นเย่เฮ่าหรันเดินมาแต่ไกล ภายในใจของโม่เสี่ยวจุนก็รู้สึกใจปลอดภัยขึ้น ความกระวนกระวายก็ค่อยๆสงบลง
“ท่านเย่ คุณพอทราบไหมครับว่าคุณเย่จะกลับมาเมื่อไหร่” ภายในใจของโม่เสี่ยวจุนคิดอยากที่จะถามเย่เฮ่าหรันเพื่อให้ได้ข่าวที่เป็นประโยชน์ที่สุด เพราะนอกจากเย่เฮ่าหรันแล้วเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะถามใคร
“พวกเขาไปบ้านตระกูลหลี่แล้ว ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”
เย่เฮ่าหรันนั้นยืนอยู่เบื้องหน้าของโม่เสี่ยวจุนในระดับที่ความสูงหนึ่งเมตร มองดูเด็กคนนี้ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของเขา ใจของเขานั้นรู้สึกใกล้ชิดอย่างบอกไม่ถูก
“ท่านเย่ ผมขอตัวก่อนนะครับ ผมว่าผมจะไปหาเขาด้วยตัวของผมเองจะดีกว่า”
“เขานั้นอยู่ด้วยกันกับเซี่ยชีหรั่น คุณลองโทรหาเซี่ยชีหรั่นดูสิ” ไม่รู้ว่าทำไมเย่เฮ่าหรันถึงมีความคิดที่อยากที่จะมองดูมาเสี่ยวจุนอีกสักพัก ความคิดนี้เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เย่เฮ่าหรันนั้นรู้สึกตั้งตัวไม่ทันเช่นเดียวกัน เขาก็ไม่รู้ว่าวันนี้เขานั้นเป็นอะไรกันแน่ หรือเป็นเพราะเขานั้นแก่แล้วงั้นหรือ
“ขอบคุณครับ ทำไมผมถึงลืมเรื่องนี้ไปได้ล่ะ” โม่เสี่ยวจุนพลางพูดขอบคุณ พลางหาโทรศัพท์ คลำหาโทรศัพท์จากกระเป๋าทั้งสองข้างก็ยังหาไม่เจอ โม่เสี่ยวจุนจึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนที่เขานั้นจะมาที่นี่ เขาได้โทรหาไห่ฉิงฉิงจากนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ
“คุณเย่ครับ ผมขอยืมโทรศัพท์ของคุณได้ไหมครับ” โม่เสี่ยวจุนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถติดต่อเย่เชินหลินได้อย่างเร็วที่สุดแม้จะเร็วกว่าเพียงวินาทีเดียวก็ยังดี
เย่เฮ่าหรันตะลึงงั้นครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบหยิบโทรศัพท์ของตนส่งให้กับโม่เสี่ยวจุน
“คุณเย่ครับ รบกวนช่วยผมต่อสายหน่อยได้ไหมครับ” โม่เสี่ยวจุนนั้นคิดว่าโทรศัพท์ของใคร คนนั้นก็จะคุ้นเคยกับมันมากกว่าคนอื่น ฉะนั้นเย่เฮ่าหรันก็คงจะโทรหาได้เร็วกว่าตน
ขณะที่เย่เฮ่าหรันกำลังรับโทรศัพท์อยู่นั้น พวกเขากำลังนั่งพูดคุยกันอยู่บนโซฟาอย่างสนุกสนาน
“พ่อคะ ฉันชีหรั่นเอง พ่อมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”เซี่ยชีหรั่นเดินออกจากห้องรับแขกเพื่อไปรับโทรศัพท์
“พ่ออยากคุยกับเย่เชินหลิน” จริงๆแล้วเย่เฮ่าหรันสามารถบอกไปตามตรงได้เลยว่าโม่เสี่ยวจุนนั้นอยากที่จะคุยกับเย่เฮ่าหรัน แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เขาพูดออกไปเช่นนั้น
“รอสักครู่นะคะพ่อ” เซี่ยชีหรั่นเดินมาข้างๆเย่เชินหลิน จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้กับเขา และพูดขึ้นด้วยเสียงเบาๆว่า:“พ่ออยากคุยกับคุณ” เย่เชินหลินนั้นไม่มีการตอบสนองกลับครู่หนึ่ง มองตรงไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ตนคุ้นเคยบนหน้าจอ จากนั้นถามขึ้นว่า:“คุณโทรหาผม มีธุระอะไร”
เย่เชินหลินไม่พูดทักทายเลยแม้แต่น้อย และพูดขึ้นอย่างโผงผาง
“โม่เสี่ยวจุนมาหาคุณ”เย่เฮ่าหรันนั้นไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมตนถึงได้รู้สึกผิดหวัง หลังจากที่เขานั้นยื่นโทรศัพท์ส่งให้กับโม่เสี่ยวจุนก็เดินจากไปอย่างไม่รีรอ
โม่เสี่ยวจุนมองเงาหลังของเย่เฮ่าหรันที่กำลังเดินจากไป ภายในใจนั้นรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
“เย่เชินหลิน วันนี้ตอนที่ผมสะกดรอยตามอาซานผมก็พบว่าเขานั้นไปหาส้งหลิงหลิง” โม่เสี่ยวจุนนั้นจำได้ว่าตอนที่อาซานนั้นถามคุณหมอ คุณหมอได้บอกอย่างชัดเจนว่าอาการของส้งหลิงหลิงนั้นหายเป็นปกติแล้ว และเมื่อเช้าส้งหลิงหลิงได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับส้งหลิงหลิง?”เมื่อเย่เชินหลินได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกว่า ต้องเกิดเรื่องไม่ดีเป็นแน่ ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้นั้นกำลังคิดวางแผนทำอะไรอีก
“ตอนนี้ส้งหลิงหลิงนั้นไม่ได้อยู่โรงพยาบาลแล้ว คุณหมอบอกว่าหล่อนนั้นหายดีแล้ว” โม่เสี่ยวจุนบอกเรื่องทุกอย่างที่ตนรู้ว่าให้เย่เชินหลินฟัง โดยไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่ตัวอักษรเดียว เขานั้นคิดว่าการที่อาซานแอบติดตามส้งหลิงหลิงนั้น จะต้องเป็นคำสั่งของจงหวีฉวนอย่างแน่นอน การที่จงหวีฉวนนั้นยังไม่ได้ตัวส้งหลิงหลิงไปนั้นยังถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าส้งหลิงหลิงนั้นได้หายตัวไปแล้ว แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไร
“ทราบแล้ว เดี๋ยวผมจะเอาเบอร์คนๆหนึ่งให้กับคุณ เดี๋ยวคุณลองติดต่อคนๆนี้ไปนะ เขาสามารถช่วยคุณตามหาส้งหลิงหลิงได้ส่วนเรื่องของอาซานนั้น ก็มอบหมายให้คนอีกคนหนึ่งตามหาก็แล้วกัน” เย่เชินหลินรีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะเรื่องนี้นั้นยังไม่ใช่เรื่องที่เขานั้นกังวลที่สุด
“ครับ”
ฝั่งของเย่เชินหลินนั้นเริ่มรู้สึกเป็นกังวล ทางด้านของจงหวีฉวนนั้นก็เริ่มกระฟัดกระเฟียด เขานั้นอยากที่จะได้ตัวของส้งหลิงหลิงเพราะจงหวีฉวนนั้นรู้สึกว่าส้งหลิงหลิงนั้นกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่
“ประธานจง ส้งหลิงหลิงนั้นแอบออกจากโรงพยาบาลด้วยตนเอง คุณหมอนั้นบอกว่าหล่อนนั้นหายเป็นปกติแล้ว”คนที่พูดนั้นพูดขึ้นผ่านโทรศัพท์อย่างระมัดระวัง อาซานที่อยู่ข้างๆนั้นก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป เรื่องๆนี้นั้นก็ไม่อาจที่จะโทษเขาได้ ใครใช้ให้ส้งหลิงหลิงแอบหนีไปเร็วขนาดนี้ล่ะ เร็วอย่างกะกระต่าย เขายังไม่ทันได้ออกปฏิบัติการเลย หล่อนก็หนีไปเสียแล้ว
“พวกคุณไปตามหาหล่อนให้ผมหน่อย ตามหล่อนให้เจอให้ได้นะ ใช่แล้ว ส้งหลิงหลิงมีพี่ชายคนหนึ่งที่ชื่อส้งซูหาว” จงหวีฉวนเดาว่าหรือว่าส้งหลิงหลิงนั้นจะติดต่อกับส้งซูหาว?ดูเหมือนว่าเขานั้นจะต้องไปหาส้งซูหาวเสียหน่อยแล้ว
การที่จงหวีฉวนนั้นกระตือรือร้นที่จะตามหาส้งหลิงหลิงนั้น ไม่ได้เป็นเพราะว่าเขานั้นเป็นห่วงหล่อนหรอก แต่เป็นเพราะว่าตอนที่เขากำลังตรวจสอบส้งหลิงหลิงนั้นเขาได้พบกับร่องรอยของอะไรบางอย่าง ซึ่งร่องรอยเหล่านั้นกลับเป็นปัจจัยที่ทำให้เย่เฮ่าหรันนั้นถึงกับปางตาย
เย่เชินหลินเริ่มก้าวเท้าช้าลง สีหน้านั้นไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
“เชินหลิน พ่อโทรหาคุณท่านมีธุระอะไรเหรอ?”เซี่ยชีหรั่นถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเย่เฮ่าหรันและเย่เชินหลินนั้นไม่ค่อยจะดีนัก แต่ภายในใจทั้งสองนั้นก็ยังแอบเป็นห่วงอยู่ในใจ เมื่อเห็นเย่เชินหลินเป็นเช่นนั้นเธอก็แอบคิดในใจว่าเย่เฮ่าหรันนั้นเป็นอะไรหรือเปล่า?
“ไม่มีอะไรหรอก ส้งหลิงหลิงนั้นไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว” เย่เชินหลินบอกความจริงกับเซี่ยชีหรั่น เพราะที่นี่ก็มีแต่คนกันเองทั้งนั้น เขาสามารถไว้ใจพวกเขาได้ หลังจากที่จ้าวเหวินอิงได้ยินสิ่งที่เย่เชินหลินพูดก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง!
“วันนั้นฉันก็เพิ่งจะไปเยี่ยมเสี่ยวห้านมา”ทำไมถึงได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะ?เซี่ยชีหรั่นนั้นยังคงจำได้ว่าวันนั้นส้งหลิงหลิงก็เริ่มอาการดีขึ้นแล้ว หรือว่าหล่อนนั้นหายดีแล้วก็เลยหนีไปเพียงลำพัง?แล้วส้งหลิงหลิง หล่อนจะไปที่ไหนล่ะ หล่อนจะกลับไปบ้านตระกูลส้งหรือเปล่า?เซี่ยชีหรั่นพยายามเดา
“วันนั้นส้งหลิงหลิงน่าจะเกือบจะหายดีแล้ว”เธอพูดสิ่งที่เธอคาดเดากับเย่เชินหลิน
“เชินหลิน หากต้องการความช่วยเหลืออะไรก็พูดมาเถอะ” หลี่หมิงจุ้นเหลือบมองจ้าวเหวินอิงครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น สายตาของจ้าวเหวินอิงนั้นมองไปที่เซี่ยชีหรั่น จนสามีของเธอนั้นแอบอยากจะหึงหวงแล้ว เขานั้นยังให้สิ่งๆกับจ้าวเหวินอิงได้ไม่มาก สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำให้ได้ในตอนนี้ก็คือ เขาจะรักและทะนุถนอมเซี่ยชีหรั่นให้มากๆ การที่เย่เชินหลินนั้นต้องการตามหาส้งหลิงหลิง ไม่ได้เป็นเพราะว่าเขานั้นชอบหล่อน หลี่หมิงจุ้นนั้นรู้ว่ามันเป็นเพราะความรับผิดชอบต่างหาก
จ้าวเหวินอิงมองไปที่หลี่หมิงจุ้นอย่างรู้สึกขอบคุณ หลี่หมิงจุ้นมอบรอยยิ้มที่อบอุ่นให้กับหล่อน
จงหยุนซางนั่งลงข้างๆหลี่เหอไท้ หลังจากที่ได้ยินข่าวนั้นสิ่งแรกที่เธอนึกถึงก็คือพ่อของเธอนั้นกำลังวางแผนที่จะทำอะไรอยู่ เมื่อคิดถึงจงหวีฉวน เธอนั้นก็มักจะรู้สึกจนใจ
หลี่เหอไท้นั้นรับรู้ได้ว่าจงหยุนซางนั้นอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เขาจึงปลอบใจจงหยุนซางด้วยการส่งรอยยิ้มให้ แสดงให้เธอนั้นรู้ว่าเขานั้นเป็นห่วงเธอ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset