สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 969 สาวใช้ตัวแสบ873

ตอนที่ 969 สาวใช้ตัวแสบ873
“คุณเย่คะ ฉันว่าสถานการณ์ของคุณเซี่ยเป็นอาการของคนแพ้ท้อง” คุณแม่เซี่ยกล่าวเสียงแผ่วเบา
“อืม ระมัดระวังตอนเตรียมอาหารเสียหน่อย” เย่เชินหลินกล่าวอย่างใจเย็น แต่ในใจนั้นมีความสุข เธอมีลูกแล้ว มีลูกของพวกเขา เย่เชินหลินนั่งอยู่บนโซฟาดูทีวีหัวเราะคิกคัก ไม่ได้สิเขาต้องบอกเรื่องนี้กับชีหรั่น เขายืนขึ้นเดินไปถึงด้านหลังประตูก็ถอยกลับมาอีก ไม่ได้ ต้องได้รับการยืนยันก่อนค่อยบอกชีหรั่น ถ้าเกิดไม่ใช่ลูกชีหรั่นจะผิดหวังได้
เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์ต่อสายไปยังหมอห่าว
“ครับคุณเย่” หมอห่าวกล่าวด้วยความเคารพ
“อีกสักครู่ผมจะให้เซี่ยอี้ชิงไปรับคุณ มีธุระกับคุณหน่อย” เย่เชินหลินพูดจบก็ยิ้มไม่หยุด
“ขออภัยด้วยครับคุณเย่ ตอนนี้ผมอยู่บ้านเกิด ผมจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้เลย” หมอห่าวกล่าวด้วยความเคารพยำเกรง“ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ใช้ความเร็วปกติของคุณก็พอ” เย่เชินหลินอารมณ์ดี ไม่ได้ซีเรียสกับการรอวันนี้
เซี่ยชีหรั่นนอนจนกระทั่งถึงเวลาอาหารค่ำ
ตอนตื่นขึ้นมาเธอมองดูเวลา ในใจก็รู้สึกผิด ยังอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเชินหลินอีก ตัวเองนอนทั้งบ่ายแบบนี้ เซี่ยชีหรั่นคิดว่าตัวเองป่วยหรือเปล่า แต่เธอกินได้นอนหลับแบบนี้จะป่วยได้หรือ?
เซี่ยชีหรั่นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังลังเลว่าควรโทรหาใคร โทรหาจ้าวเหวินอิงเธอก็กลัวว่าจ้าวเหวินอิงจะกังวล โทรหาฝู้เฟิ่งหยีก็กลัวพวกเขาจะเป็นห่วง ท้ายที่สุดเซี่ยชีหรั่นก็ต่อสายหาจิ่วจิ่ว
“ชีหรั่นอา เธอแอบหายไป ตอนนี้นึกถึงฉันขึ้นมาแล้วหรือ” จิ่วจิ่วถามเซี่ยชีหรั่นอย่างเคือง ๆ วันนั้นเธอไปดูหนังกับเหยนชิงเหยียนพอกลับมาก็ไม่เห็นร่องรอยของเซี่ยชีหรั่นแล้ว เธอให้เหยนชิงเหยียนไปถามฝู้เฟิ่งหยี ฝู้เฟิ่งหยีบอกว่าเพื่อไม่ให้รบกวนพวกเขา พวกเขาไม่ได้บอกที่อยู่มา
“จิ่วจิ่ว ฉันไม่รู้ว่าฉันป่วยหรือเปล่า” เซี่ยชีหรั่นในเวลานั้นไม่คิดว่าตัวเองจะมีลูก จำใจต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากจิ่วจิ่วหญิงผู้สวมเกี้ยวเจ้าสาว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีลูก
“เธอเป็นอะไร?” จิ่วจิ่วพอได้ยินเซี่ยชีหรั่นพูดว่าป่วย ตรงนั้นถึงจะโกรธอยู่แต่ก็เป็นห่วงด้วย “ร้ายแรงหรือเปล่า เธอไปหาหมอมาหรือยัง หมอห่าวไม่ได้ไปกับพวกเธอหรือ คุณเย่รู้หรือไม่? จิ่วจิ่วถามยกใหญ่
“จิ่วจิ่ว ตอนนี้ทุกทุกวันฉันกินเยอะมาก ๆ แถมพอนอนก็นอนเสียนาน” เซี่ยชีหรั่นกล่าวอย่างทุกข์ใจ
“ชีหรั่น ทำไมพอฉันฟังแล้วรู้สึกเหมือนพวกคนที่เขามีลูกล่ะ” จิ่วจิ่วหัวเราะหยอกล้อ
“แต่ว่าดูจากสถานการณ์ก่อนหน้าแล้ว ฉันกับเชินหลินสุขสมกันแค่ครั้งเดียว จะเป๊ะขนาดนี้เชียวหรือ” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงแผ่ว
ฝู้เฟิ่งหยีเดินผ่านมาพอดีได้ยินคำว่าลูกคำนี้ความรู้สึกไวขึ้นมาทันที จิ่วจิ่วก็มองเห็นฝู้เฟิ่งหยี คิ้วของเธอก็ขมวดขึ้น
“ชีหรั่น คุณนายอยู่ข้าง ๆ ฉันยกสายให้เธอคุยกับคุณนายนะ” จิ่วจิ่วส่งโทรศัพท์ให้ฝู้เฟิ่งหยีแล้วกล่าว “สายของชีหรั่น”
“ชีหรั่น เกิดอะไรขึ้น?” ฝู้เฟิ่งหยีถามขึ้น ทั้งคู่เพิ่งย้ายออกไปไม่กี่วัน ทั้งสองคนมีปัญหากันแล้วงั้นหรือ?
“แม่คะช่วงนี้หนูกินเยอะ แถมยังขี้เซา กินข้าวพอได้กลิ่นของคาวก็เอาแต่อ้วก ทำเอาเชินหลินกินข้าวไม่ปกติสุขเอาเสียเลย” เซี่ยชีหรั่นเล่าสถานการณ์ของตัวเองให้ฝู้เฟิ่งหยีฟัง เธอไม่กล้าสรุปโดยพลการว่ามีลูก เซี่ยชีหรั่นไม่อยากให้ทุกคนผิดหวัง
ฝู้เฟิ่งหยีเป็นคนผ่านมาที่พอฟังคำอธิบายของเซี่ยชีหรั่น ในใจก็ดังดอกไม้บานสะพรั่ง เธอจะได้เป็นคุณย่าแล้ว นึกถึงก่อนหน้าที่ได้แต่มองดูเด็ก ๆ บ้านอื่น ตอนนี้จะมีเป็นของตัวเองเสียที ใบหน้าสาวมีอายุพราวเสน่ห์ของเธอแต่งแต้มไปด้วยความสุข
“ชีหรั่น อย่ากังวล แบบเธอนี้คือปฏิกิริยาของคนมีลูก นี่เป็นปฏิกิริยาที่ปกติที่สุด” ฝู้เฟิ่งหยีเพิ่งพูดจบจิ่วจิ่วก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ชีหรั่นมีลูก เธอจะได้เป็นแม่บุญธรรมแล้ว จิ่วจิ่วตัดสินใจว่ารอให้ลูกของเซี่ยชีหรั่นโตจะต้องเรียกเธอว่าแม่บุญธรรมให้ได้
จิ่วจิ่วยืนขึ้นสักพักก็นั่งลงไปอีกบนโซฟา โซฟาหนังแท้บุบลงไปเป็นหลุม เหยนชิงเหยียนเพิ่งเดินเข้ามา จิ่วจิ่วยืนตัวลอย เธอวิ่งไปดึงเหยนชิงเหยียนไว้และพูดอย่างมีความสุข : “ฉันจะเป็นแม่บุญธรรมแล้ว ฉันจะได้เป็นแม่บุญธรรมแล้ว” ลักยิ้มบนใบหน้าลึกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนที่เธอจะเป็นคือแม่ แต่ไม่ใช่แม่บุญธรรม
เหยนชิงเหยียนลูบหัวจิ่วจิ่ว พยักหน้ายิ้มรับ
ฝู้เฟิ่งหยีบอกเซี่ยชีหรั่นไม่ต้องกังวล ให้ตั้งใจดูแลสุขภาพให้ดี ช่วงระยะเริ่มแรกนี้ต้องระวังอย่าออกกำลังกายหนัก
หลังวางสายฝู้เฟิ่งหยีไปหาเย่เฮ่าหรัน เธอจะเอาข่าวนี้ไปบอกเขา คิดว่าเย่เฮ่าหรันจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่ได้ยินข่าวนี้ ในใจของจิ่วจิ่วคิดแต่จะเตรียมของขวัญไว้ให้เด็ก เธอจะเตรียมของขวัญอะไรดีนะ
“คุณว่าพวกเราเตรียมตุ๊กตาผ้าไว้ให้เด็กดีไหม” จิ่วจิ่วถามเหยนชิงเหยียน ตากลมโตเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“เด็กดี ทารกยังไม่เกิดเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง” เหยนชิงเหยียนมองดูจิ่วจิ่ว เขาก็อยากเป็นพ่อคนเหมือนกัน
“งั้นฉันจะเตรียมของขวัญไว้สองชุด มีของเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิง ไม่แน่นะ ชีหรั่นอาจจะคลอดลูกแฝดชายหญิงก็ได้” จิ่วจิ่วกล่าวโดยไม่คิดมาก
เหยนชิงเหยียนเพียงแค่ยิ้มลูบหัวปลอบจิ่วจิ่ว
“ชีหรั่นมีลูกแล้ว” เมื่อฝู้เฟิ่งหยีเห็นเย่เฮ่าหรันเธอก็รอแทบไม่ไหวที่จะแจ้งข่าวนี้กับเขา
“จริงหรือ?” เย่เฮ่าหรันถามอย่างนิ่งสงบ ในใจของเขาก็เฝ้ารอการมาถึงของหลานชาย
“ชีหรั่นเด็กน้อยนั่นไม่รู้ว่าตัวเองมีปฏิกิริยาของคนท้อง เธอถามจิ่วจิ่วแต่ฉันดันได้ยินเข้า” ฝู้เฟิ่งหยีมองไปที่ผมสีขาวบนศีรษะของเย่เฮ่าหรัน ความสุขในใจลดลงไปไม่น้อย
“พรุ่งนี้คุณไปหาหมอที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนชีหรั่น หมอประจำบ้านไม่อยู่ก็ไปหาหมอที่โรงพยาบาล” เย่เฮ่าหรันรู้ว่าภรรยาของเขาอยากได้หลานไม่ใช่แค่วันสองวัน แม่ของเด็กคนนี้คือชีหรั่น ล้วนเป็นคนที่พวกเขายินดีต้อนรับทั้งสิ้น
“รู้แล้ว พรุ่งนี้ฉันไปเป็นเพื่อนชีหรั่นอยู่แล้ว” ฝู้เฟิ่งหยีอยากจะเอ่ยปากให้เย่เฮ่าหรันไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลด้วยกันสักครั้ง ยังไม่ทันได้อ้าปากเย่เฮ่าหรันก็โบกมือให้เธอออกไป เขาจะทำงานไม่อยากโดนรบกวน
เซี่ยชีหรั่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงโทรหาจ้าวเหวินอิง มีคำพูดของฝู้เฟิ่งหยีแล้ว ตั้งแต่ต้นเซี่ยชีหรั่นก็ถามว่าเธอตั้งครรภ์ใช่หรือไม่
“ชีหรั่น ลูกมีอาการของการตั้งครรภ์ ในระหว่างนี้ต้องดูแลตัวเองให้ดี มิเช่นนั้นลูกจะป่วยไปด้วย หรือว่าย้ายกลับมาแม่ไปดูแลลูกเอง” จ้าวเหวินอิงแนะนำ เธอเข้าใจดีว่าช่วงเวลาระหว่างตั้งครรภ์นั้นยากลำบากแค่ไหน ในตอนนั้นเธอทรมานไม่น้อยไม่อยากให้ลูกของตัวเองไปเป็นแบบนั้นอีก
“แม่คะ ไม่เป็นไร หนูอยากอยู่กับเชินหลินที่นี่ หนูจะดูแลตัวเองให้ดีนะ” เซี่ยชีหรั่นปลอบจ้าวเหวินอิงอย่างดีใจ
บนโต๊ะอาหารบรรยากาศอบอวลไปด้วยความรื่นเริง
อาหารทั้งหมดรสชาติอ่อน ไร้ซึ่งอาหารที่มีกลิ่นฉุน
เย่เชินหลินตักอาหารที่เซี่ยชีหรั่นชอบให้เธอ เสียงพูดอย่างร่าเริง : “ที่รักอันนี้อร่อย” เย่เชินหลินตักอาหารที่เซี่ยชีหรั่นชอบให้เธอเต็มจาน
มองดูอาหารในถ้วยพูนเหมือนภูเขา เซี่ยชีหรั่นอดที่จะยิ้มไม่ได้พลางพูด : “เชินหลินอย่าคีบกับข้าวให้ฉันหมดสิ มา คุณก็กินด้วย” เธอมองดูอาหารเหล่านั้นล้วนแต่เป็นเมนูที่เธอชอบ ยังดีที่รสนิยมอาหารของเย่เชินหลินไม่ต่างจากเธอมาก
“เชินหลิน ฉันอยากออกไปซื้อของสักหน่อย” เซี่ยชีหรั่นคิดถึงของที่ตัวเองต้องซื้อ ไม่กล้ามองเย่เชินหลิน
“ได้สิ ผมไปเป็นเพื่อน” เย่เชินหลินไม่ได้ถามว่าเธออยากซื้ออะไร เขารับปากในทันที
ในห้างสรรพสินค้าคนล้นหลามมืดฟ้ามัวดิน
เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงมองไปยังเย่เชินหลินแล้วพูด : “คุณอยู่ที่นี่ ฉันเดินไปคนเดียว”
เย่เชินหลินเงยหน้ามองไปยังสัญลักษณ์เหล่านั้น ฉีกยิ้มแล้วกล่าว : “ผมจะไปเป็นเพื่อนภรรยาผม มิเช่นนั้นดูแลคุณไม่ดี คุณแม่จะซักถามผมได้”
“คุณอยู่ที่นี่ดีไหม?” เสียงที่เกือบจะวิงวอนของเซี่ยชีหรั่นยังคงไม่ได้รับความยินยอมจากคุณชายเย่ เขาจับมือของเซี่ยชีหรั่นแล้วเดินไปอย่างเปิดเผย นี่ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรสักหน่อย
หลังกลับถึงบ้าน เซี่ยชีหรั่นยังคงหน้าแดงไม่กล้ามองเย่เชินหลินแต่เย่เชินหลินอารมณ์ดีหาอะไรมาเปรียบไม่ได้
“ที่รัก หรือว่าเราไปตรวจด้วยกันดีไหม” เย่เชินหลินพูดอย่างจริงจัง มองไม่ออกร่องรอยการหยอกล้อบนใบหน้า
เซี่ยชีหรั่นพอได้ยิน พูดอย่างเด็ดขาด : “ไม่ต้อง” พูดจบถึงคิดได้ว่าตัวเองรุนแรงไปหน่อย เธอเพียงแค่ไม่อยากให้เย่เชินหลินผิดหวัง
“เชินหลิน คุณรอฉันนะโอเคไหม”
“ผมรอคุณ” เย่เชินหลินมองไปยังเซี่ยชีหรั่นอย่างลึกซึ้ง เขาเข้าใจความหมายที่เธอไม่ให้เขาไปด้วย ยัยตัวเล็กของเขายังขี้อายอยู่
สิบห้านาทีหลังจากพลิกกลับด้านไปมา อ่านหนังสือคำแนะนำ เซี่ยชีหรั่นยิ้มออกมา เธอมีลูกแล้วจริง ๆ เป็นลูกของเขาและเธอ
เย่เชินหลินยืนพิงประตู มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้ม สายตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มองไปทางเซี่ยชีหรั่น ที่รัก พวกเรามีลูกแล้ว เด็กคนนี้เป็นการตกผลึกของความรัก
“หลิน เรามีลูกแล้ว” เซี่ยชีหรั่นกระโดดตัวลอยเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เชินหลิน ดูเหมือนนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีลูกแล้วไม่ควรประมาทแบบนี้ เธอเอามืออุงริมฝีปากไว้ ใบหน้าแสดงออกว่าตัวเองทำเรื่องผิดพลาดไป เย่เชินหลินลูบจมูกของเธอ พูดอย่างเอ็นดู : “ระวังหน่อยสิ จะเป็นแม่คนแล้วนะ ยังประมาทแบบนี้อีก”
“ฉันดีใจไปหน่อยน่ะ” เซี่ยชีหรั่นพิงเย่เชินหลินพูด เธอดีใจจริง ๆ ผ่านลมผ่านฝนมาขนาดนี้ มีลูกได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เชินหลินมีเด็กคนนี้แล้ว คุณจะลืมความเจ็บปวดที่เย่เจิ้งเหิงและส้งหลิงหลิงมอบให้คุณได้หรือไม่
เย่เชินหลินมองไปยังหญิงสาวที่ทุกรูขุมขนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อยู่ตรงหน้าเขา หมอกควันที่คอยกระจายอยู่ก้นลึกของหัวใจเขาได้มลายหายไปแล้ว ตอนนี้ลูกของเขากำลังจะมาถึง เขาต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ดี นึกถึงศัตรูของเขา เย่เชินหลินหรี่ตาลง ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าได้มีความคิดจะทำร้ายลูกของเขา
เย่เชินหลินอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเซี่ยชีหรั่นให้มากกว่านี้ เขาโทรศัพท์หาหลินหลิงและหลินต้าฮุย อนาคตในหนึ่งเดือนข้างหน้าเรื่องทั้งหมดในบริษัทให้พวกเขาเป็นคนดูแลจัดการทุกอย่าง
หลินหลิงได้ฟังเสียงของเย่เชินหลิน เธอสามารถจินตนาการภาพการแสดงออกทางสีหน้าของเย่เชินหลินได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบยิ้ม แต่ว่ารอยยิ้มของเขานั้นสวยงามเหลือเกิน
หลังจากสั่งการเรื่องบริษัทแล้ว เย่เชินหลินก็เริ่มคิดว่าจะทำให้ผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นประหลาดใจได้อย่างไร
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินหลังออกไป เธอเปิดแล็ปท็อปของเธอและค้นหาทางอินเทอร์เน็ตสิ่งที่ควรใส่ใจเมื่อมีลูก เมื่อเห็นคำพูดเหล่านั้น เธอก็ดึงปากกาออก หยิบกระดาษขึ้นมาตั้งใจจดบันทึก
เย่เชินหลินเดินเข้ามาเห็นเซี่ยชีหรั่นในสภาพนี้ เขาก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไป จับปากกาในมือของเซี่ยชีหรั่น คนสองคนหัวชนกันบันทึกเรื่องราวที่สนใจของชีวิต
“เชินหลิน คุณคิดว่าฉันจะคลอดลูกชายหรือลูกสาว?” เซี่ยชีหรั่นถามเย่เชินหลินเสียงแผ่ว เธออยากฟังความเห็นของเย่เชินหลิน ถึงแม้ว่าเธอไม่สามารถแน่ใจได้ว่าตัวเองจะคลอดลูกสาวหรือลูกชาย

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset