สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 981 สาวใช้ตัวแสบ 885

ตอนที่ 981 สาวใช้ตัวแสบ 885
เขาไม่อยากขับรถที่ดึงดูดสายตาคันนั้น ไห่ลี่หมินไม่คิดว่าตัวเองจะถูกลากไปไกลตามคำสั่งของชายชราก่อนที่เขาจะมาถึงตระกูลหลินทุกวันสั่งงานให้คนอื่นทำ ไห่ลี่หมินเปลี่ยนเป็นชุดลำลอง ผมที่พิถีพิถันบนศีรษะของเขากระจัดกระจายไป ชุดแฮนด์เมดระดับไฮเอนด์บนร่างกายของเขาก็กลายเป็นชุดลำลองสำหรับเล่นกีฬาเช่นกัน ไห่ลี่หมินในชุดลำลองดูเป็นผู้ชายที่สดใส เทียบกับไห่ลี่หมินที่เคยสวมชุดสูทตอนนี้เขาในชุดลำลองดูจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า
เขาแอบออกจากตระกูลหลินหนังสือนั้นกลายเป็นเครื่องมือซ่อนตัวของเขา ไห่ลี่หมินคอยสอดส่องทุกการเคลื่อนไหวภายใน ตราบใดที่ยังมีคน อยู่รอบๆ ท่านปู่หลินและหลินหลิง ไห่ลี่หมินก็จะเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์เสมอ
แต่ตระกูลหลินจะไม่เห็นทุกการเคลื่อนไหวของไห่ลี่หมินเหรอ เลขาธิการหลินคิดไม่ออกไห่ลี่หมินจะทำอะไรกันแน่ เขาบอกคนรับใช้ว่าอย่าผลีผลาม เขาอยากเห็นว่าเด็กคนนี้กำลังจะทำอะไร
“ท่านปู่จะให้ไล่เขาออกไปหรือไม่?” ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่รู้จักตัวตนของไห่ลี่หมิน คิดว่าเป็นพวกพวกหัวขโมยและพวกอันธพาล ต้องการทรัพย์สินของตระกูลหลิน เขาจ้องไปที่ร่างของไห่ลี่หมินอย่างดุดัน เกรงว่าจะไห่ลี่หมินจะแอบเข้าเข้าไปในตระกูลหลินได้แล้วมันเป็นความผิดครั้งใหญ่ของเขา
“ปล่อยเขาไปเถอะ” เลขาธิการหลินพูดอย่างใจเย็นและไม่มีอะไรผิดปกติ พอเห็นว่าเลขาธิการหลินไม่ได้อะไรอีก ท่านปู่หยิบเอกสารบนโต๊ะทำงาน เขาจึงถอยออกไปและปิดประตูให้อย่างใส่ใจ ท่านปู่ต้องการทำงาน ในที่ทำงานท่านปู่ไม่ให้ชอบมีคนอยู่ใกล้ๆ แม้ว่าท่านปู่จะไม่สนใจ แต่เขาก็ประมาทไม่ได้
ดังนั้น ทุกๆวันไห่ลี่หมินจึงซ่อนตัวอยู่นอกบ้านพักของตระกูลหลินเป็นกระต่ายเฝ้าต้นไม้รอให้คนออกมา คนของตระกูลหลินเปลี่ยนกะเพื่อเฝ้าดูไห่ลี่หมินทุกวันเพราะกลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสหยิบอะไรไป
วันแห่งความสงสัยซึ่งกันและกันดังกล่าวกินเวลามาสามวันแล้ว ป้าจางคิดถึงเรื่องที่หลินหลิงไม่ค่อยอยากอาหาร เธอรู้สึกเป็นห่วงคุณหนู ร่างบางนั้นลมพัดทีคงปลิว เธอวางแผนที่จะไปซื้อผักและทำอาหารดีๆให้คุณหนูทาน แต่พอป้าจางเดินไปที่ประตู ไห่ลี่หมินก็เดินตาม ป้าจางไปไม่ไกล
“เร็วเข้า รีบไปบอกท่าน ไอ้หมอนั่นกำลังสะกดรอยตามป้าจาง” ชายหนุ่มที่เป็นอายุยี่สิบกว่าปีตะโกนเรียกอย่างเสียงดัง เขาชื่อว่าหยวนจื่อเขาเป็นผู้ช่วยของตระกูลหลิน หยวนจื่อหันหน้าไปมอง จางไห่ที่เข้ากะเฝ้ายามกะเขายังคงหลับอยู่ เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ไอ้หมอนี่หลับได้ไง กี่โมงกี่ยามเข้าไปแล้ว “บอกให้นายไปแจ้งท่านปู่ว่าไอ้หมอนั่นมันลงมือแล้ว” หยวนจื่อเคาะศีรษะจางไห่อย่างแรง
“ตีฉันทำไมเนี่ย” จางไห่คู่หูกระโดดขึ้นด้วยความตกใจ มองไปที่ใบหน้าบึ้งตึงของหยวนจื่อ รู้ตัวว่าทำผิดจึงถามกลับว่า “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ พอดีเหม่อไปนิดหน่อย?”
หยวนจื่อพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ไปบอกท่านปู่ว่าไอ้หมอนั่นสะกดรอยตามป้าจาง มาก่อน ต้องมีเจตนาไม่ดีแน่” เขาต้องการเฝ้าดูเด็กคนนี้ต่อไป
“รู้แล้วน่า รู้แล้ว”
หยวนจื่อจ้องมองไปที่ไห่ลี่หมิน เด็กหนุ่มรีบเร่งฝีเท้าของเขา ไม่ได้เขาต้องไปที่ช่วย หยวนจื่อวิ่งตรงออกจากวิลล่าตระกูลเย่ เขากลัวว่าป้าจางจะเกิดอะไรขึ้นซะก่อนถ้าเขาช้าเกินไป
“ไอ้หมอนี่ ช่างกล้า” หยวนจื่อหอบหายใจและในที่สุดก็เดินตาม ป้าจางและไห่ลี่หมินไป เขาหยุดเพื่อพักหายใจ ไอ้หมอนั่นกลับเร่งฝีเท้าตาม ป้าจางออกไป หยวนจื่อไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม วิ่งกระโดดสุดชีวิตเข้าไปจับตัวไห่ลี่หมินไว้
ไห่ลี่หมินเดิมทีตั้งใจจะขึ้นไปคุยกับป้าจางเพื่อหาข้อมูล แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกไป เขาก็ถูกอะไรสักอย่างกระโจนใส่ อีกฝ่ายไม่พูดอะไร เอาแต่ทุบตีเขา คนเราถึงยังไงก็มีอารมณ์ ไห่ลี่หมินเองก็ชักมีน้ำโห เขาหมุนแขนแล้วหันกลับไปคว้าคนข้างหลัง จับอีกฝ่ายพาดไหล่อย่างสวยงามแล้วทุ่มหยวนจื่อลงบนพื้น
หยวนจื่อไม่ได้คาดหวังว่าชายหนุ่มคนนี้จะโต้กลับ เขาพยายามที่จะยืนขึ้น แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม หยวนจื่อรู้สึกว่าเขาได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของร่างกายของเขาแต่กลับถูกอีกฝ่ายยันไว้ เขาไม่ยอม ไอ้หมอนี้ช่างหน้าด้านจริงๆ
ไห่ลี่หมินมองไปที่คนนอนราบบนพื้นซึ่งเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก ดวงตาของเขาเข้มขึ้น
“หยวนจื่อ ทำไมมาอยู่ที่นี่” ป้าจางได้ยินการเคลื่อนไหวและหันไปรอบๆ เห็นชายหนุ่มสองคนกำลังต่อสู้ เธอจึงเดินไปด้านข้างๆ เธออายุมากจนไม่กล้าที่จะห้ามการต่อสู้ แต่เมื่อเธอเห็นหยวนจื่อเข้า ป้าจางก็เข้าไปช่วยดึงหยวนจื่อขึ้นมา
“ไม่เจ็บใช่ไหม”
ป้าจางลูบหัวหยวนจื่อพักหนึ่งด้วยความเป็นห่วง สักพักก็สำรวจมือของหยวนจื่อ แสดงความห่วงใยเอื้ออาทร หยวนจื่อโตมากับเธอในตระกูลหลิน เพราะเธอไม่มีลูก ส่วนหยวนจื่อได้รับการเลี้ยงดูในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนหยวนจื่ออายุสิบสอง ป้าจางเห็นว่าเขาเป็นโดดเดี่ยวอยู่ลำพังเมื่อเธอไปซื้อกับข้าวจึงพาเขาไปที่ตระกูลหลิน นั่นสามารถอธิบายได้ว่าทำไมพอหยวนจื่อเห็นไห่ลี่หมินสะกดรอยตามป้าจางจึงตรงไปต่อสู้กับไห่ลี่หมิน
เมื่อไห่ลี่หมินได้ยินว่าป้าจางเรียก หยวนจื่อที่นอนบนพื้น ดูเหมือนจะเป็นคนที่เธอรู้จัก ป้าจางที่จับมือหลินหลิงในวันนั้นดูเหมือนว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินหลิง เขาต้องการที่จะติดต่อหลินหลิง ดังนั้นจึงควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับป้าจางไว้ แต่หยวนจื่อคนนี้เขาไม่รู้จัก ขายขี้อายจริงๆ ไห่ลี่หมินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มทะเล้นว่า “ขอโทษนะ ขอโทษด้วย ฉันคิดว่าเป็นคนร้ายน่ะ” แม้ว่าเขาจะพูดว่าขอโทษ แต่ไห่ลี่หมินได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย
“ฉันเป็นเพื่อนร่วมงานของหลินหลิง พอดีฉันไม่ได้เห็นเธอไปทำงานมาสองสามวันแล้ว เลยแวะมาดูสิ รบกวนทุกคนหน่อยนะครับ” ไห่ลี่หมินพูดความจริงพร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจบนใบหน้าของเขา หยวนจื่อลูบหัวตัวเอง ที่แท้ก็คนกันเองแท้ๆแต่ดันไม่รู้จักกันก็เลยปะทะกันฟรีๆ เพื่อนของคุณหนูนั่นเอง หยวนจื่อยิ้มแหย
“ฉันเป็นคนดูแลคุณหนู ทุกคนเรียกฉันว่าป้าจาง ส่วนนี่คือหยวนจื่อ” ป้าจางได้ยินว่าเพื่อนร่วมงานของหลินหลิง ดูเหมือนจะห่วงใยหลินหลิงมาก เธอก็คิดว่าน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินหลิง
ไห่ลี่หมินสังเกตท่าทาง รู้ว่าเขาผ่านด่านหนึ่งแล้วและเขาต้องมีกำลังใจสู้ต่อไป
“หยวนจื่อ เดี๋ยวฉันจะไปซื้อของเป็นเพื่อนป้าจางเอง ฉันจะช่วยป้าจางหิ้วของนายกลับไปเถอะ” ไห่ลี่หมินดูเป็นกันเองมาก ประโยคนี้ดูเหมือนเขาฝึกพูดมาหลายครั้งจนดูเป็นธรรมชาติ เขาผลักหยวนจื่อไปในทิศทางของวิลล่าตระกูลหลินพูดด้วยท่าทางที่น่าเชื่อถือว่า “ไม่ต้องกังวล มีฉันอยู่ที่นี่ ไม่เป็นไร กลับไป” เขาหยิบของในมือของป้าจาง สองคนคุยกันอย่างมีความสุข ไม่มีใครสนใจสีหน้าประหลาดใจของหยวนจื่อ
“ท่านปู่ มีใครบางคนกำลังสะกดรอยตามป้าจาง” จางไห่กล่าวด้วยความกลัว เขากลัวใบหน้าของท่านปู่ เพราะมันดูจริงจังมากเกินไป
เลขาธิการหลินเงยหน้าขึ้นมองอย่างเคร่งขรึม สมองของเขาก็ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าใครจะกล้าตามป้าจางอย่างกล้าหาญเลขาธิการหลินยังไม่ทันสั่งให้คนไปดูก็ถูกขัดจังหวะซะก่อน
“ท่านปู่ ฉันเข้าใจผิดเอง คนๆนั้นเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณหนู เขากับป้าจางกำลังจะไปซื้อของที่ร้านขายของชำ” หยวนจื่อรีบร้อนก้าวเข้าไปในประตูเพื่อรายงานต่อเสนาธิการหลิน เขาพยักหน้าโชคดีที่เขามาถึงทันเวลา โชคดีที่ท่านปู่เพิ่งรู้ ไม่งั้นจะคงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่อีก
“ไห่ลี่หมิน?” เลขาธิการหลินพูด “คนที่ประตูเมื่อวันก่อน?” เขารู้ว่าต้องเป็นไห่ลี่หมินเมื่อได้ยินหยวนจื่อเอ่ย ช่วงนี้ว่างนักหรือไง
“ครับ ท่านปู่” หยวนจื่อพยักหน้าอย่างแรง ในตอนแรกเขาคิดว่าชายคนนี้มีปัญหา วันนี้เขาคิดว่าเขาจับจุดอ่อนอีกฝ่ายได้ แต่ทำไมสิ่งต่าง ถึงไม่เป็นไปตามนั้น? ไม่เพียงเขาจับจุดอ่อนไม่ได้เท่านั้นแต่เขาเกือบจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่ คิดถึงเรื่องที่ตัวเองนอนบนพื้นด้วยความอับอาย ใบหน้าของหยวนจื่อนั้นก็ดูแย่มาก
อีกฝ่ายเป็นเพื่อนร่วมงานของคุณหนู เขาทำได้เพียงอดทนต่อเรื่องเสียเปรียบนี้
เป็นไห่ลี่หมิน เสนาธิการหลินจึงไม่มีอะไรต้องกังวล เด็กคนนี้ต้องการเข้าใกล้ ป้าจางก่อนที่จะเข้าใกล้หลินหลิง
ป้าจางไม่ค่อยมาซื้อผัก เธอชอบไปตลาดผักมากกว่า เธอคิดเสมอว่าผักที่ซื้อในตลาดค่อนข้างสด
“ป้าจางเรียกฉันว่าลี่หมินก็ได้ คุณเลือก เดี๋ยวฉันจะซื้อเอง” ไห่ลี่หมินกล่าวด้วยความเคารพ เขาต้องเข้าใจก่อนว่าหลินหลิงและท่านปู่หลินชอบอะไร ถ้าท่านปู่หลินไม่เห็นด้วย เส้นทางแห่งความรักของเขาก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก
ทำไมหลินหลิงถึงมีภูมิหลังที่หนักหนาเช่นนี้ ไห่ลี่หมินหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แบบนั้นเขาจะได้ไม่ต้องเข้าหาคนจำนวนมาก
“ลี่หมิน คุณเป็นเพื่อนร่วมงานของหลินหลิง ดังนั้นดูแลเธอด้วยนะ” ป้าจางคิดว่าหลินหลิงคาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เธอยังเด็ก มีนิสัยเข้มแข็งและไม่เคยต้องลำบาก “เด็กคนนี้อยู่คนเดียวมาตั้งแต่ยังเด็กและไม่เคยลำบากมาก่อน ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากหนีออกจากบ้าน หายไปหลายปี ไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นต้องลำบากแค่ไหน” ป้าจางมีน้ำตาคลอ เธอรู้สึกกังวลและไม่สบายใจ เธอหลินหลิงเติบโตมาตั้งแต่เป็นหลินหลิงตัวน้อย เธอถือว่าหลินหลิงเป็นลูกสาวของตัวเองอยู่ในใจแล้ว พอหลินหลิงออกจากบ้านไป ป้าจางก็ร้องไห้อยู่หลายวัน
“ไม่ต้องห่วง ป้าจางฉันจะดูแลเธอเอง” ไห่ลี่หมินกล่าวสาบาน เขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่เย็นชาจะได้รับการดูแลที่สูงเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินเธอต่ำไป
“คุณหนูชอบกินนี่” ป้าจางชี้ไปที่พืชสีเขียวในตลาดผักและอธิบายให้ไห่ลี่หมินฟัง ไห่ลี่หมินเดินผ่านไป เขาไม่รู้จักอาหารจานนี้ แต่ไม่สำคัญว่าเขาไม่รู้หรือไม่ เขารู้แล้วก็ดี ต่อไปจะได้มาซื้อผักของเธอด้วยตนเอง ไห่ลี่หมินใช้โอกาสนี้เพื่อใช้เวลากับป้าจาง เขาได้รู้ความชอบของท่านปู่หลินและวัยเด็กของหลินหลิง
“ป้าจาง ท่านปู่ชอบอะไร” ป้าจางมองไห่ลี่หมินอย่างแปลกๆ ทำไมเขาว่าท่านปู่ชอบอะไร? หรือป้าจางรู้ความคิดและพยักหน้า มองไปที่ดวงตาของป้าจางแล้วไห่ลี่หมินก็รีบอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ป้าจางเป็นเช่นนี้หลินหลิงไม่รู้จะช่วยพ่อของเธออย่างไร ฉันฟังเธอถอนหายใจมาตลอด ถามเธอว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับท่านปู่รึเปล่าแต่เธอไม่พูดอะไรเลย” ไห่ลี่หมินพูดกับตัวเอง ว่าโชคดีที่เขาตื่นตัว นี่เป็นข้อแก้ตัวที่ดี
“ท่านปู่ชอบเล่นหมากรุกมากที่สุด มันยากที่จะหาคู่ต่อสู้ ไม่มีใครในบ้านเป็นคู่ต่อสู้ของท่านปู่ได้เลย” ป้าจางจำได้ว่าท่านปู่หลินเคยเล่นหมากรุกกับภรรยาของเขา นอกจากคุณนายแล้ว เธอมีคู่ต่อสู้เพียงไม่กี่คนจริงๆ
ในเวลานั้นคุณหนูจะเล่นหมากรุกกับท่านปู่ทุกครั้งที่เธอกลับบ้านจากโรงเรียน ส่วนคุณนายจะเฝ้าดูเธออยู่ข้างๆด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
“พ่อ ฉันจะไม่ลงตรงนี้แล้ว” หลินหลิงเม้มปาก รีบหยิบหมากสีดำที่ลงไปและยิ้ม “พ่อ เดี๋ยวก่อน ให้ฉันดูก่อน” ตอนนั้นหลินหลิงยังเด็กและตอนนั้นท่านปู่มีแต่รอยยิ้มใจดีบนหน้า
ป้าจางมองไปที่ทั้งคู่ด้วยความสุข
ตอนนั้นคุณหนูยิ้มอย่างไร้เดียงสาทุกวัน แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คุณหนูเปลี่ยนไป? ดูเหมือนว่าจะเพราะเรื่องคุณนาย

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset