สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 991 สาวใช้ตัวแสบ 895

ตอนที่ 991 สาวใช้ตัวแสบ 895
“แม่ แม่อยู่ไหน? ทำไมเสียงดังแบบนี้? ” เซี่ยชีหรั่นยิ่งสงสัยเพิ่มมากขึ้น
จ้าวเหวินอิงคิดว่าตอนนี้เซี่ยชีหรั่นมีลูก ถ้าเธอบอกเธอว่าหลี่หมิงจุ้นป่วยก็จะเป็นการเพิ่มภาระให้เธอ
“ชีหรั่น ไม่เป็นไรลูก แม่ออกมาเดิน อยู่บ้านตลอดมันไม่ดี” จ้าวเหวินอิงคิดว่านี่เป็นข้ออ้างที่ดี แบบนี้เธอจะอธิบายได้ว่าทำไมหลี่หมิงจุ้นไม่อยู่บ้าน
“แม่ แม่อยู่คนเดียวเหรอ? ”
เซี่ยชีหรั่นเงียบไปหลายนาที เมื่อจ้าวเหวินอิงคิดว่าเธอไม่พูดแล้วเธอก็เอ่ยปากพูดขึ้น
“เด็กคนนี้ทำไมถามแบบนี้ แม่อยู่กับพ่อหนูไง” จ้าวเหวินอิงไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นเห็นตนบนถนน คิดว่าตัวเองมีข้อแก้ตัวที่ดี สมบูรณ์แบบ
“ชีหรั่น ถ้าไม่มีอะไรแล้ว แม่เข้าไปก่อนนะ” ตอนจ้าวเหวินอิงคุยโทรศัพท์กับเซี่ยชีหรั่นกำลังเดินเข้าไปประตูโรงพยาบาล ฝั่งตรงข้ามมีรถพยาบาลสองคันมา เสียงหวอเข้ามาในโทรศัพท์
“แม่ แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม ทำไมมีเสียงหวอดังเยอะแบบนี้” พอได้ยินเสียงนี้ เซี่ยชีหรั่นก็ถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร นี่โรงพยา……เราผ่านฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล” จ้าวเหวินอิงเปลี่ยนคำพูดกลางคัน โชคดีที่เธอเปลี่ยนคำพูดไม่อย่างนั้นเธอจะพลั้งปาก
เซี่ยชีหรั่นมักรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น แต่พูดไม่ออกว่าเรื่องอะไร
“ชีหรั่น แค่นี้นะลูก ถ้ามีเวลาแม่จะโทรหาลูกนะ” จ้าวเหวินอิงวางสายแล้ววิ่งไปที่โรงพยาบาล
ไห่ลี่หมินผ่านมาข้างๆ เธอไม่ได้สนใจ ไห่ลี่หมินเห็นจ้าวเหวินอิงที่อยู่ห่างๆ นี่มันแม่ชีหรั่นไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นเมื่อวานแผ่นหลังที่เขาเห็นต้องเป็นหลี่เหอไท้แน่ๆ พวกเขามาโรงพยาบาลทำไม?
จ้าวเหวินอิงเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยและหอบหายใจหนัก
“ลำบากเธอเลย” หลี่หมิงจุ้นนอนบนเตียง พูดอย่างชัดเจน แค่เมื่อเทียบกับปกติ เขาแก่ขึ้นมาก สีหน้าไม่ได้ดีเหมือนแต่ก่อน
หลี่เหอไท้นั่งข้างๆ เขาประคองจ้าวเหวินอิงนั่งลง หลี่หมิงจุ้นดิ้นรนนั่งขึ้นมา
“พ่อ พ่อนอนลงไปเถอะ อย่าขยับ” หลี่เหอไท้เดินไปพูด เขาเสียใจมาก พ่อตัวเองป่วยมานานขนาดนี้แต่กลับไม่รู้เลยจริงๆ ถ้าเมื่อวันก่อนเขาไม่เห็น หลี่เหอไท้ไม่อยากจะคิดว่าพ่อจะซ่อนความป่วยนี้ไว้นานแค่ไหน
“ชีหรั่นโทรมาตอนแม่กลับมาด้วย” จ้าวเหวินอิงพูดเรียบๆ
“อย่าบอกเธอว่าฉันป่วย”
“อย่าเพิ่งบอกเธอว่าพ่อป่วย”
หลี่เหอไท้และหลี่หมิงจุ้นพูดพร้อมกัน “ตอนนี้เธอไม่สะดวก”
ดวงตาคู่สวยของจ้าวเหวินอิงมีน้ำตาสะสม เธอโชคดีที่ตัวเองเจอสามีที่ดี โชคดีที่หลี่เหอไท้มีความเห็นอกเห็นใจตอนนี้
“ฉันไม่ได้บอกเธอ แต่ไม่รู้ทำไม ชีหรั่นเหมือนรู้อะไรบางอย่าง” จ้าวเหวินอิงลังเลสักพักก่อนพูดขึ้น เธอก็ไม่แน่ใจมากนัก
“ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่ได้ป่วยหนัก ผ่านไปสักพักคงดีขึ้น” หลี่หมิงจุ้นพูดเสียงดัง เพิ่งพูดก็ไอขึ้นมาอย่างรุนแรง
จ้าวเหวินอิงลูบหลังอย่างเป็นห่วง เจ็บปวดในใจ ความรักมากมายระหว่างสามีภรรยา เมื่อเขาเจ็บ เธอยิ่งเจ็บ
หลี่เหอไท้มองสองคนที่ใกล้ชิดกัน ในดวงตามีแต่ความอิจฉา เขาก้าวเท้ายาวเดินออกไปหาแพทย์ ไม่ต้องบอกพยาบาลด้านนอกเมื่อได้ยินหลี่หมิงจุ้น ก็พาหลี่เหอไท้ไปหาแพทย์ผู้รับผิดชอบอย่างเป็นห่วง
“สวัสดีครับ ผมหลี่เหอไท้ ลูกชายของหลี่หมิงจุ้น” หลี่เหอไท้ส่งมือไปอย่างสุภาพ สาเหตุหลักที่มาที่นี่คืออยากเข้าใจอาการของหลี่หมิงจุ้น
แพทย์ชายอายุสี่สิบปีคนหนึ่งเดินมา ตัวไม่สูง ตาโต เขายื่นมือออกมาจับมือหลี่เหอไท้
“สวัสดีครับ ผมคือหมอผู้รับผิดชอบคุณท่านหลี่ หลี่เหวิน” หลี่เหวินพูพอย่างสุภาพ เขามีบางเรื่องต้องคุยกับคนในครอบครัวหลี่หมิงจุ้น ยังไม่ทันไปหา หลี่เหอไท้ก็มาแล้ว ช่วยเขาประหยัดเวลาเดินทาง
หลี่เหวินพาหลี่เหอไท้มานั่งตรงข้ามโต๊ะทำงานเขา
“คุณหมอหลี่ ผมอยากเข้าใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพ่อผม” หลี่เหอไท้พูดจบ สองมือก็ประสานเข้าด้วยกัน เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังกังวลอะไร ขาก็ถอยกลับอย่างผิดธรรมชาติ
“คุณหลี่ สำหรับอาการป่วยของพ่อคุณ เขาเป็นโรคชราที่หลงเหลือมาจากปีก่อนๆ ต้องให้ความสำคัญกับการผ่อนคลาย ความดันเลือดพ่อคุณสูงมาก ดูเหมือนไตจะเริ่มเปลี่ยนแปลง แต่ตอนนี้มาเร็ว มันควบคุมได้แล้ว แค่ตอนปกติใช้ชีวิตผ่อนคลายให้มากๆ ให้ความสำคัญกับการผ่อนคลายก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ” หลี่เหวินหยิบฟอร์มการตรวจสุขภาพของหลี่หมิงจุ้นให้ดูทีละหน้า ยังดีที่สุขภาพคุณท่านหลี่มีสมรรถภาพทางกายที่ดี ถ้าเป็นคนอื่นคงสิ้นหวังไปแล้ว
“ขอบคุณครับหมอ” หลี่เหอไท้ผ่อนคลายมือที่ประสานกันอยู่ หัวใจที่ห้อยอยู่สูงก็วางมันลงมาได้
“ไม่เป็นไรครับ ดูแลคุณพ่อให้มากๆ ” หลี่เหวินโบกมือ แล้วทำงานในมือต่อ
หลี่เหอไท้ออกมาจากห้องทำงานหลี่เหวินอย่างมีความสุข เขาปิดประตูลงเบาๆ
“แม่ แม่ไปไหน? ” หลี่เหอไท้กำลังหันตัวมาก็เห็นจ้าวเหวินอิง
“แม่เตรียมไปเอาน้ำเดือดให้พ่อน่ะ” จ้าวเหวินอิงมองประตูด้านหลังหลี่เหอไท้ ตอนออกมาก็รู้ว่าเขามาทำอะไร ดิ้นรนอยู่หลายนาทีจ้าวเหวินอิงก็เอ่ยปากถามออกมาจนได้ “หมอพูดอาการพ่อของลูกว่าไงบ้าง?”
จ้าวเหวินอิงไม่กล้าถามแพทย์เลย เธอกลัว หลอกตัวเองแบบนี้มาหลายวัน แต่หลี่เหอไท้ถามไปแล้ว จ้าวเหวินอิงยิ้มขมขื่นในใจ ถ้าไม่ถาม อาการป่วยของหลี่หมิงจุ้นคงไม่น้อยไปกว่าตอนนี้ ถ้าถามไป อาการป่วยของหลี่หมิงจุ้นก็คงไม่ร้ายแรงไปกว่าตอนนี้
“แม่ พ่อไม่เป็นอะไรครับ” หลี่เหอไท้พูดอย่างปลอบโยน เขามองออกว่าจ้าวเหวินอิงดูแก่ลงอย่างรวดเร็วเพราะพ่อเขาป่วย เมื่อครู่นี้ประคองเธอนั่งลง หลี่เหอไท้เห็นผมหงอกบนศีรษะจ้าวเหวินอิง เมื่อก่อนเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แม่ไปเติมน้ำเดือดก่อนนะ” จ้าวเหวินอิงหมายถึงกระติกน้ำร้อนในมือ
“ไปเถอะครับ”
หลี่เหอไท้มองตามจ้าวเหวินอิงเดินจากไป
จ้าวเหวินอิงได้ยินว่าไม่เป็นไรก็โล่งใจไม่น้อย ตอนที่หลี่หมิงจุ้นถูกส่งมาโรงพยาบาล เธอโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ได้ยินว่าหลี่หมิงจุ้นไม่เป็นอะไรจ้าวเหวินอิงถึงได้ปล่อยวางโซ่ตรวนในใจ เหอไท้เด็กคนนี้อยู่โรงพยาบาลเฝ้าตลอดเวลา จ้าวเหวินอิงคิดในใจว่าวันนี้ให้เขากลับไปดีกว่า เธอเฝ้าก็พอแล้ว
จ้าวเหวินอิงและสองพ่อลูกตระกูลหลี่ตกลงกันว่าห้ามบอกเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นซื้อของขวัญเด็กให้ไห่ฉิงฉิงเรียบร้อยแล้ว กลับมาถึงบ้านของเธอและเย่เชินหลิน เย่เชินหลินก็ยังไม่กลับมา
เซี่ยชีหรั่นนั่งบนเก้าอี้นุ่ม นึกถึงที่คุยโทรศัพท์กับจ้าวเหวินอิงในวันนี้ คำว่าโรงพยาบาลนั้นอ่อนไหวเกินไป ลางสังหรณ์ไม่ดีในใจของเธอก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยชีหรั่นมองเวลา บ่ายโมง เธออารมณ์เสีย
“อี้ชิง ฉันอยากไปที่บ้านแม่ฉัน” เซี่ยชีหรั่นปกป้องท้อง เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
แม่เซี่ยเห็นสีหน้าเซี่ยชีหรั่นก็แอบโทรไปหาเย่เชินหลิน วันนี้คุณนายออกไปสองครั้ง คุณเย่ไม่รู้ เธอต้องบอกคุณเย่สักหน่อย
“คุณเย่ ฉันแม่เซี่ยนะคะ วันนี้คุณนายเย่ไปเยี่ยมคุณจิ่วจิ่วที่คฤหาสน์ ตอนนี้เธออยากไปหาคุณแม่เธอค่ะ” แม่เซี่ยพูดอย่างระมัดระวัง
“ไม่เป็นไร ให้อี้ชิงดูแลเธอให้ดี ฉันอยู่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปมีธุระนิดหน่อยยังกลับไม่ได้” เย่เชินหลินมองนาฬิกาข้อมือ บ่ายโมงครึ่ง บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปเซ็นสัญญากับบริษัทอื่น ที่รักของเขาดูเหมือนจะคิดถึงคุณแม่ เธอไปหาก็ดี เย่เชินหลินลืมที่ไห่ลี่หมินบอกว่าเจอหลี่เหอไท้ที่โรงพยาบาลไปชั่วขณะ
ได้รับการอนุมัติจากเย่เชินหลิน แม่เซี่ยก็สบายใจไม่น้อย
“อี้ชิง นายดูแลคุณนายให้ดีนะ อย่าให้เกิดอะไรขึ้น” แม่เซี่ยประคองเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในรถ กำชับอย่างระมัดระวังและจริงจัง
“แม่เซี่ยไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะดูแลตัวเองให้ดีค่ะ” เซี่ยชีหรั่นลูบมือแม่เซี่ยแสดงการปลอบโยน เธออยากถึงตระกูลหลี่ให้เร็วกว่านี้
เซี่ยอี้ชิงพยักหน้า เห็นเซี่ยชีหรั่นคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็สตาร์ทรถ เขาขับรถช้าๆ ด้วยความเร็วเดิม เซี่ยชีหรั่นเห็นรถและบ้านที่แล่นผ่านไปด้านนอกก็ขมวดคิ้วและพูดขึ้น “อี้ชิง ขับเร็วกว่านี้ได้ไหม ฉันไม่เป็นไร” ลางสังหรณ์ไม่ดีของเซี่ยชีหรั่นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
“คุณนาย ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่เป็นไรหรอกครับ” เซี่ยอี้ชิงดวงตามืดลง คุณนายมีความกังวลในใจ
“อี้ชิง ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน เร็วหน่อย” เซี่ยชีหรั่นยังไม่พอใจกับความเร็วปัจจุบัน
“คุณนาย คุณต้องคำนึงถึงลูกในท้องนะครับ”
ลูก ลูกจะโทษแม่ไหม? ลูก แม่ไม่มีทางเลือก ลูกอยากโทษแม่เหรอ ถือว่าช่วยแม่นะ เซี่ยชีหรั่นลูบท้องอย่างรักใคร่ ท้องเข้าใจอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนฟังเข้าใจความทุกข์ใจของเซี่ยชีหรั่น
“อี้ชิง ฉันกลัว นายเร็วขึ้นหน่อยนะ” เซี่ยชีหรั่นแทบจะพูดขอร้องวิงวอน
เซี่ยอี้ชิงเห็นแววตาที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วตกอยู่ในความพ่ายแพ้ เขาเร่งความเร็วขึ้นอีกขั้น
ภายในรถเงียบสงบมาก เซี่ยชีหรั่นมองออกไปนอกหน้าต่างรถโดยที่ไม่พูดอะไรตลอดเวลา
หลังจากบ้านคุ้นเคยปรากฏขึ้น เซี่ยชีหรั่นก็หอบหายใจหนัก
เซี่ยอี้ชิงเพิ่งจอดรถนิ่งสนิท เซี่ยชีหรั่นก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกอย่างทนไม่ไหว เพราะรีบร้อนจึงปลดไม่ออก
“คุณนาย คุณไม่ต้องกังวลนะ” เซี่ยอี้ชิงเห็นในสายตา ไม่รู้จะแบ่งปันความกังวลของเซี่ยชีหรั่นอย่างไร
ใจเย็น แม่บอกว่าไม่เป็นอะไร ต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ เซี่ยชีหรั่นเหยียดมือออกแล้วลดระดับลงมาอย่างราบรื่น ค่อยๆ ปลดเข็มขัดนิรภัยอย่างช้าๆ
เธอเดินไปเปิดประตู ทำไมเปิดไม่ออก
“แม่ ฉันมาแล้ว” เสียงโดดเดี่ยวดังก้องตลอดเวลา หายไปแล้ว ไม่มีใครตอบเซี่ยชีหรั่น
“คุณนาย ประตูล็อกครับ ดูเหมือนคุณนางหลี่กับคุณหลี่จะไม่อยู่บ้าน” เซี่ยอี้ชิงเห็นล็อกขนาดใหญ่ก็พูดขึ้น
เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในรถหยิบกระเป๋าถือออกมา ดีที่เธอเอากุญแจมาด้วย ในเมื่อพวกเขาไม่อยู่บ้าน ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะรอพวกเขาที่นี่
เซี่ยอี้ชิงสงสัยมาก นายท่านหลี่หมิงจุ้นไม่อยู่บ้าน คนอื่นทำไมไม่อยู่บ้านเหมือนกัน?
“อี้ชิง เข้ามา ฉันอยากรอพวกคุณแม่กลับมาที่นี่” เซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยความยากลำบาก มาถึงห้องรับแขกก็มีบันไดไม่กี่ขั้น เธอเดินอย่างยากลำบากผิดปกติ “ถ้านายมีธุระก็ไปทำก่อนเลย”
เซี่ยอี้ชิงวิ่งไปเปิดประตูใหญ่ห้องรับแขก เขาจะกล้าทิ้งเซี่ยชีหรั่นอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ถึงแม้ที่นี่คือตระกูลหลี่ เขาก็ไม่กล้า คุณนายสำคัญที่สุด
“คุณนาย ผมจะรอพวกเขากับคุณครับ” เขายิ้มพูด ในใจสงสัยว่าต้องโทรหาคุณเย่ไหม
เซี่ยชีหรั่นนั่งเบื่อๆ ก็เปิดโทรทัศน์ เปลี่ยนหลายช่องตามอำเภอใจ ไม่ว่าจะเป็นละครย้อนยุค ละครหลังข่าว ความบันเทิงหรือภาพยนตร์ เธอก็ดูไม่ลง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset