แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 122 แค่ถีบก็นับว่าสุภาพมากแล้ว

“คุณแม่ ฮือ.. ทำไมนังชั้นต่ำคนนี้ถึงกลับมาที่นี่อีก ฮือ.. มันทำเลวกับหนูขนาดนี้ ทำจนหนูไม่เป็นผู้ไม่เป็นคนแล้ว ตอนนี้ยังอยากจะฆ่าเด็กในท้องของหนูอีกด้วย”

 

เด็กในท้อง ?

 

เซี่ยฉิงกงตกใจมาก หรือเพราะวันนั้น …

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกเศร้า ไม่ว่าจะดีจะชั่วยังไงเธอและเซี่ยชิงฉวนก็เป็นพี่น้องกัน หากแต่แม้ว่าเธอจะเห็นอกเห็นใจเซี่ยชิงฉวน ทว่าเซี่ยชิงฉวนก็สมควรได้รับผลนั้นแล้ว

 

แต่นี่ เซี่ยชิงฉวนกำลังตั้งครรภ์ …

 

เจินเมี่ยวหยูคงไม่เคยคิดฝันว่า เซี่ยชิงฉวนจะเป็นผู้ที่ดื่มยาปลุกเซ็กส์ กระทั่งทำลายชีวิตตนเองทั้งชีวิต

 

เรื่องของคุณหนูรองสกุลเซี่ยที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าบ้านเซี่ย … กลายเป็นข่าวเด่นข่าวดังที่แพร่สะพัดไปทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้ในวันนั้น

 

แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อซื้อข่าวจากสื่อต่าง ๆ หากแต่ตอนนี้อินเทอร์เน็ตก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก มีภาพถ่ายจำนวนมากที่หลุดรอดออกมาจากที่เกิดเหตุในเวลานั้น และภาพพวกนั้นก็แพร่กระจายไปบนโลกออนไลน์ …

 

เวลานั้น เจินเมี่ยวหยูคิดแต่ว่าเซี่ยฉิงกงจะเป็นคนดื่ม เธอจึงเพิ่มปริมาณยาลงไปในไวน์มากขึ้น ก่อนหน้านี้ เซี่ยชิงฉวนอาจเป็นคนป่าเถื่อน และเอาแต่ใจ หากแต่เธอก็เป็นคนที่มีชีวิตส่วนตัวที่สะอาดหมดจดไร้มลทิน ทั้งไม่เคยมีแฟนมาก่อน เธอยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง ด้วยเหตุนี้เมื่อแพทย์ตรวจร่างกาย จึงพบว่าทั่วร่ายกายของเธอมีแต่รอยฟกช้ำดำเขียว และไม่ใช่เพียงอวัยวะเพศของเธอเท่านั้นที่ฉีกขาด แม้แต่ทวารหนักของเธอก็ยังมีร่องรอยของการถูกล่วงล้ำ พูดง่าย ๆ ก็คือร่างกายของเธอถูกทำลายจนไม่เหลือดี

 

แน่นอนว่าจำเป็นที่จะต้องเอามารหัวขนคนนั้นออกเป็นแน่ เพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อ …

 

หากแต่หมอกลับบอกว่า ถ้าทำแท้ง เซี่ยชิงฉวนจะไม่มีวันตั้งท้องได้อีกเลยตลอดชีวิต

 

เซี่ยเจิ้งหัวปิดข่าวทั้งหมด เขารอให้เซี่ยชิงฉวนทำใจยอมรับ และเข้มแข็งมากกว่านี้ เขาจะส่งเธอไปต่างประเทศเพื่อให้กำเนิดลูกอย่างลับ ๆ

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวของตระกูลเซี่ย ทั้งย่อมจะแพร่กระจายไปได้ง่ายดายในประเทศจีนนี้

 

“เซี่ยฉิงกง เธอทำอย่างนี้กับน้องสาวของเธอได้อย่างไร นี่เธอสั่งสอนคนของเธออย่างไรกัน ? จะไม่เกินไปหน่อยหรือ ?”

 

เห็นได้ชัดว่าเจินเมี่ยวหยูไม่พอใจ เธอก้มลงมองลูกสาวที่เธอกอดไว้แนบอกด้วยความรู้สึกเสียใจ เห็นได้ชัดว่าหมั่นโถวเท้าหนักมาก ลูกถีบครั้งนี้ทำให้เซี่ยชิงฉวน ต้องทนทุกข์ทรมานมากเลยทีเดียว

 

“คุณป้า น้องชิงฉวนวิ่งถือมีดวิ่งโร่เข้ามาหมายจะแทงฉัน คนของฉันก็แค่พยายามปกป้องชีวิตของฉัน เช่นนี้ ก็ผิดด้วยหรือ ?”

 

“คุณมู่ คนที่คุณมอบหมายให้อยู่ข้างกายคุณย่อมต้องเก่งมากอยู่แล้วใช่มั้ย ? เธอไม่มีทักษะในการคว้ามีดจากมือของชิงฉวนเลยหรือ ?”

 

เซี่ยฉิงกงหัวเราะ ทฤษฎีนี้ช่างไร้สาระจริง ๆ มีเพียงเจินเมี่ยวหยูกับลูกสาวเท่านั้นที่สามารถพูดจาไร้เหตุผลแบบนี้ได้

 

ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อ หมั่นโถวก็กล่าวขึ้นว่า

 

“คุณนายเซี่ย หากจะให้ฉันเตะข้อมือของคุณหนูรองแล้วคว้ามีดมา เกรงว่ามือของคุณหนูรองจะขยับไม่ได้อีกครึ่งปี และหากมีดไม่ถูกแย่งมา มีดก็อาจจะพลาดไปโดนศีรษะของนายหญิงน้อย และนั่นย่อมจะทำให้นายหญิงน้อยได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นฉันคิดว่า ที่ฉันทำกับเธอเช่นนี้ ฉันก็สุภาพมากแล้วนะ”

 

ใบหน้าของเจินเมี่ยวหยูเปลี่ยนเป็นสีเขียว เธอแทบไม่อาจอดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป เธอเพียรพยายามระงับความโกรธ เมื่อครู่เธอเองก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงเผลอกล่าววาจาเช่นนั้นออกไป ดังนั้นตอนนี้เธอจึงตัดสินใจหยุดพูดเพียงแค่นั้น

 

ต่างกับเซี่ยชิงฉวนผู้ซึ่งไม่สามารถอดกลั้นได้ เธอพยายามลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับหยิบมีดขึ้นมาอีกครั้ง

 

“แกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน ?”

 

“ใครก็ได้เข้ามาที่นี่หน่อย เอาคุณหนูรองออกไปที !”

 

เซี่ยเจิ้งหัวโกรธมาก เขาโมโหจนตบโต๊ะ พร้อมกับคำรามออกมา

 

หลังจากนั้นไม่นาน ชายร่างท้วมในชุดดำสี่หรือห้าคนก็เข้ามา แล้วเซี่ยชิงฉวนก็ถูกบังคับลากตัวออกไป เจินเมี่ยวหยูสูดลมหายใจเข้าลึก พร้อมกับพูดว่า

 

“เจิ้งหัว ฉันขอไปดูแลชิงฉวนก่อนนะ”

 

เจินเมี่ยวหยูพูดจบ ก็หันไปมองเซี่ยฉิงกง ก่อนจะเดินออกไปอย่างรีบร้อน ทว่าก็ยังไม่วายมองตาเซี่ยฉิงกงก่อนที่จะจากไป และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกตัวสั่น เธอรู้สึกเหมือนได้สบตาของอสรพิษ

 

“ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่นี่แล้ว”

 

ชั่วขณะนั้นมือใหญ่ ๆ ของมู่เฉินฮ่าวก็ตระหวัดโอบรอบเอวของเธอ เขากระชับอ้อมแขนขึ้นอีกเล็กน้อย และกักขังเธอไว้ในวงแขนของตน

 

***จบตอน แค่ถีบก็นับว่าสุภาพมากแล้ว***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset