เซี่ยฉิงกงบีบมือของมู่เฉินฮ่าวโดยไม่รู้ตัว และนั่นทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น
“มู่จื่อหมิง ผมอับอายขายหน้ามาก”
การที่เซี่ยชิงฉวนเข้ามาทำลายบรรยากาศอย่างกะทันหันนั้น ทำให้เซี่ยเจิ้งหัวอับอายเป็นอย่างมาก เขาหันไปมองมู่จื่อหมิงด้วยความลำบากใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าลูกสาวคนรองของเขาจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ เขารู้สึกเจ็บปวดจนเกินรับได้จริง ๆ
“ไม่เป็นไรเจิ้งหัว เรามาคุยกันต่อเกี่ยวกับงานหมั้นเถอะ วันที่ 18 กรกฎาคมเป็นวันดี เลือกหมั้นวันนี้เลยดีไหม ?”
มู่จื่อหมิงยิ้มน้อย ๆ ราวกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
มู่จื่อหมิงเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย เขาเข้าใจเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี เขาจึงไม่แปลกใจใด ๆ
เขารู้ดีถึงทักษะการต่อสู้ของหมั่นโถว เป็นไปไม่ได้ที่หมั่นโถวจะปล่อยให้เซี่ยฉิงกงได้รับบาดเจ็บ
“อืม… เอ่อ… เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้รีบรับฉิงกงกลับบ้านโดยเร็ว ปล่อยให้เธอทนทุกข์ทรมานอยู่ข้างนอกนานหลายปี”
เซี่ยเจิ้งหัวมีทีท่าเสียใจ
เซี่ยฉิงกงสังเกตเห็นว่าบนศีรษะของเซี่ยเจิ้งหัวดูเหมือนจะมีเส้นผมสีขาวเพิ่มเข้ามาเป็นจำนวนมาก นี่ต้องเกิดจากเรื่องของเซี่ยชิงฉวนในครั้งก่อนนั้นเป็นแน่ เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสำหรับเขาเลย
“ได้ตัวคืนมา แต่งงานกับลูกชายของผมได้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องห่วงผมจะดูแลเธออย่างดี”
มู่จื่อหมิงพูดพร้อมกับลูบเคราของตน เขาหันไปมองเซี่ยฉิงกงอย่างพึงพอใจ
ครั้นเซี่ยฉิงกงถูกมองด้วยสายตาเช่นนี้ เธอก็รู้สึกเขินอายเล็กๆ เธอเอนกายอิงมู่เฉินฮ่าวโดยไม่รู้ตัว
หลังจากสนทนากันต่ออีกไม่กี่คำ กำหนดพิธีหมั้นของเซี่ยฉิงกง และมู่เฉินฮ่าวก็ยุติลงได้อย่างเป็นทางการ พวกเขาต่างวางแผนไว้ว่าหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ทั้งสามคนก็จะอำลาตระกูลเซี่ยและกลับบ้าน
เซี่ยฉิงกงต้องการอาศัยเวลาในช่วงบ่าย ไปพบแม่บุญธรรมของเธอ.. เซี่ยฉิวเจิน
หลังจากเซี่ยฉิวเจินถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเอกชนสกุลมู่แล้ว เซี่ยฉิงกงก็ขอให้ซูเฟยช่วยตรวจร่างกายแม่บุญธรรมของเธออย่างละเอียด เธอคิดว่าจะได้รับรายงานด้านสุขภาพของแม่บุญธรรมในบ่ายวันนี้
และเนื่องจากวันนี้เซี่ยฉิงกงมาเยี่ยม เจ้าบ้านเซี่ยจึงอารมณ์ดีขึ้นมาก มื้อค่ำนี้เขาจึงดื่มไวน์ไปหลายแก้ว
ครั้นเซี่ยฉิงกงเห็นเช่นนั้น เธอจึงเอ่ยถามถึงสิ่งที่เธอคลางแคลงใจ
คุณพ่อบอกว่าจะย้ายแม่บุญธรรมของหนูไปอยู่ในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดไม่ใช่หรือคะ ? ไม่ทราบว่าโรงพยาบาลนั้นมีชื่ออะไร ? เพราะหนูเองก็ไม่เคยถามเลยว่าแม่บุญธรรมอยู่โรงพยาบาลอะไร ? หนูตั้งใจจะไปเยี่ยมท่านในบ่ายวันนี้”
เซี่ยเจิ้งหัวรินไวน์อีกแก้ว พร้อมกับกล่าวว่า
“อืม… เรื่องนั้นพ่อให้เมี่ยวหยูเป็นคนจัดการ พ่อเองก็ไม่ได้ถามเธอเหมือนกัน ไว้พ่อจะถามเธอให้นะ”
ในใจของเซี่ยเจิ้งหัว เจินเมี่ยวหยูเป็นผู้หญิงที่มีคุณธรรม มีเมตตาและมีจิตใจดีเสมอมา เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เธอมักจะแสดงท่าทางเห็นอกเห็นใจเซี่ยฉิงกงเสมอ ซึ่งนั่นทำให้เซี่ยเจิ้งหัวซาบซึ้งเป็นอย่างมาก
ครั้นได้ยินคำว่า เจินเมี่ยวหยู เซี่ยฉิงกงและมู่เฉินฮ่าวก็หันมองหน้ากัน ต่างก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณพ่อคะ ที่จริงแล้ว เฉินฮ่าวกับหนูไปหาแม่บุญธรรมแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ … เธอถูกจัดให้อยู่ในห้องพักภายในโรงพยาบาลที่แสนทรุดโทรม … ที่นั่นมีทั้งแมลงสาบ ทั้งยุงบินว่อนไปทุกหนทุกแห่ง และสภาพแวดล้อมก้ไม่ถูกสุขอนามัยเอาเสียเลย”
เซี่ยฉิงกงกล่าว ดวงตาสวยงามของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาที่ใกล้จะร่วงหล่นออกมาเต็มที และซึ่งทำให้ผู้คนเห็นแล้วก็รู้สึกทุกข์ใจตามไปด้วย
“แม่สาวน้อย แสดงได้ยอดเยี่ยมมาก”
มู่เฉินฮ่าวกอดเซี่ยฉิงกงไว้ในอ้อมแขนของเขา และกระซิบข้างหูของเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่ดูเหมือนกำลังปลอบโยนภรรยาตัวน้อยที่เศร้าโศกของเขา
“ฮึ่ม”
เซี่ยฉิงกงตะคอกเบา ๆ แต่ก็ยังคงร้องไห้ต่อไป
“เจ้ามานี่สิ ไปเชิญนายหญิงมาสิ”
เซี่ยเจิ้งหัวตบโต๊ะ เขาคำราม หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น
คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างตัวสั่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน ตั้งแต่เขาทำงานที่นี่มา ไม่เคยเห็นเจ้าบ้านโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย
ในเวลานั้น เจินเมี่ยวหยูกำลังปลอบเซี่ยชิงฉวนอยู่ในห้อง เธอต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เธอบอกลูกสาวของเธอว่า เธอไม่มีวันปล่อยให้เซี่ยฉิงกงตายดีอย่างแน่นอน เซี่ยฉิงกงจะต้องตายโดยไร้ดินกลบฝัง ครั้นได้ยินเช่นนั้นอารมณ์ของเซี่ยชิงฉวนจึงดีขึ้น
“นายหญิง นายหญิง นายท่านให้เชิญไปพบขอรับ”
***จบตอน แม่สาวน้อย แสดงได้ยอดเยี่ยมมาก***