แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 91 แผนแตก

เห็นได้ชัดว่า มู่เฉินฮ่าวเข้าใจผิดคิดว่าฉีเหยียนเอ๋อเป็นเซี่ยฉิงกง เขาสูญเสียการควบคุมตนเองภายใต้อำนาจของฤทธิ์ยา

 

“นี่มัน..เกิดอะไรขึ้น ?”

 

ครั้นมู่จื่อหมิงเห็นฉากตรงหน้า เขาก็ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าของเขาไม่อาจคาดเดาความรู้สึกได้

 

เขาและฉีป๋อหยวนลุกออกจากโต๊ะอาหารก่อนคนอื่น เพื่อไปเล่นหมากล้อม ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากแต่เขารู้ดีว่า ลูกชายของเขาไม่ใช่คนที่จะนอนกับผู้หญิงง่าย ๆ อย่างแน่นอน

 

มู่เฉินฮ่าวเห็นฉีเหยียนเอ๋อเป็นเซี่ยฉิงกง

 

ครั้นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเข้ามา ฉีเหยียนเอ๋อก็กรีดร้อง จากนั้นเธอก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว

 

แม้ว่าเธอจะรู้สึกอับอาย หากแต่ฉีเหยียนเอ๋อก็ยังไม่ลืมที่จะหันไปมองเซี่ยฉิงกงผู้ซึ่งยืนอยู่ตรงประตูพร้อมกับส่งสายตาเยาะเย้ย

 

มู่เฉินฮ่าวเห็นฉีเหยียนเอ๋อเป็นเซี่ยฉิงกงไปแล้ว เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ออกเลย

 

เขาก้มศีรษะลง และกำลังจะจูบฉีเหยียนเอ๋อ เซี่ยฉิงกงก็ตวาดทันทีว่า

 

“มู่เฉินฮ่าว !”

 

ทันทีที่มู่เฉินฮ่าวได้ยินเสียง เขาก็เงยหน้าขึ้นเหลียวมองไปรอบ ๆ แล้วเขาก็เห็นเซี่ยฉิงกงอีกคน แววตาของเขาบ่งบอกว่าประหลาดใจ แต่แล้วสติของเขาก็กลับคืนมา

 

เขาก้มศีรษะลงมองผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างเขา พลันความรังเกียจก็แผ่ซ่านออกมาจากนัยน์ตาของเขา ฝ่ามือข้างหนึ่งของเขาบีบลำคอของฉีเหยียนเอ๋ออย่างแรง จากนั้นเขาก็เหวี่ยงเธอตกจากเตียง

 

ฉีเหยียนเอ๋อผู้ซึ่งถูกเหวี่ยงลงกับพื้นกรีดร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด อารามตกใจ เธอรีบยกมือขึ้นปกปิดเรือนร่างตนเอง

 

จางหยูหลานรีบถอดเสื้อโค้ทของตน และรีบนำมาสวมให้ฉีเหยียนเอ๋ออย่างรวดเร็ว

 

แม้ว่ามู่เฉินฮ่าวที่ยังคงอยู่บนเตียงจะเรียกสติกลับคืนมาได้บ้าง หากแต่เขาก็ยังไม่หายเป็นปกติ สายตาของเขายามเมื่อมองเซี่ยฉิงกงนั้นร้อนเร่าแทบจะลุกเป็นไฟก็ว่าได้

 

เซี่ยฉิงกงไม่กล้าเข้าใกล้มู่เฉินฮ่าว เธอไม่ต้องการให้มู่เฉินฮ่าวใช้เธอเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ของเขา

 

เธอไม่เต็มใจ หากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมเห็นมู่เฉินฮ่าวติดกับดักผู้หญิงคนอื่น

 

“พ่อบ้านจางเตรียมรถพานายน้อยไปส่งโรงพยาบาล”

 

ครั้นมู่จื่อหมิงสังเกตเห็นอาการผิดปกติของมู่เฉินฮ่าว เขาก็สั่งการพ่อบ้านจางทันที

 

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ คุณลุงมู่ หนูขอให้หมอซูมาที่นี่แล้ว”

 

ทันทีที่เซี่ยฉิงกงกล่าวจบ ก็มีคนมาแจ้งว่า

 

“นายท่านคะ หมอซูมาค่ะ”

 

ทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากเซี่ยฉิงกง ซูเฟยก็วางงานในมือลงและรีบบึ่งรถมาที่บ้านสกุลมู่หลังเก่า ซูเฟยเป็นหมอที่โดดเด่นที่สุดในโรงพยาบาลเอกชนของสกุลมู่ ด้วยเหตุนี้มู่จื่อหมิงจึงคุ้นเคยกับเธอมากเช่นกัน

 

“ซูเฟย ช่วยดูอาการเฉินฮ่าวเร็ว ๆ เข้า ผมอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ?” มู่จื่อหมิงกล่าวอย่างเคร่งเครียด

 

ซูเฟยและเซี่ยฉิงกงหันมองหน้ากัน เธอพยักหน้าให้เซี่ยฉิงกง จากนั้นก็เปิดกล่องเครื่องมือที่เธอพกติดตัวมาด้วย แล้วหยิบถุงมือแพทย์ และหน้ากากขึ้นมาสวม

 

“ค่ะ นายท่าน”

 

ฉีเหยียนเอ๋อผู้ซึ่งนอนกองอยู่บนพื้นพลันรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เธอจับมือจางหยูหลานแม่ของเธอไว้แน่น ขณะเอ่ยถามด้วยสุ้มเสียงเบา ๆ ว่า

 

“คุณแม่ หนูจะทำยังไงดี ? นังหมอนั่น และนังชั้นต่ำนั่นเป็นพวกเดียวกัน “

 

เธอเคยพบซูเฟยในโรงพยาบาลเอกชนของสกุลมู่

 

จางหยูหลานกลอกตา พลางตบหลังมือฉีเหยียนเอ๋อ พร้อมกับกล่าวอย่างใจเย็นว่า

 

“ลูกแกล้งทำเป็นหมดสติด้วยความตกใจ ที่มู่เฉินฮ่าวคุ้มคลั่ง ใช้กำลังปลุกปล้ำลูก แล้วไม่ต้องพูดอะไรอีก ที่เหลือไว้แม่จัดการเอง”

 

ครั้นฉีเหยียนเอ๋อได้รับคำแนะนำเช่นนั้น เธอก็ทำทีแสร้งเป็นตกใจกลัวจนสลบอยู่ในอ้อมแขนของจางหยูหลาน

 

หลังจากตรวจร่างการเรียบร้อยแล้ว ซูเฟยก็เก็บเครื่องมือของเธอ

 

“นายท่าน นายน้อยโดนยาปลุกเซ็กส์ ยาชนิดนี้ออกฤทธิ์รุนแรงมาก ทั้งยังเป็นอันตรายต่อร่างกายมากอีกด้วย”

 

***จบตอน แผนแตก***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset