“คุณแม่ ฮือ.. ทำไมนังชั้นต่ำคนนี้ถึงกลับมาที่นี่อีก ฮือ.. มันทำเลวกับหนูขนาดนี้ ทำจนหนูไม่เป็นผู้ไม่เป็นคนแล้ว ตอนนี้ยังอยากจะฆ่าเด็กในท้องของหนูอีกด้วย”
เด็กในท้อง ?
เซี่ยฉิงกงตกใจมาก หรือเพราะวันนั้น …
เซี่ยฉิงกงรู้สึกเศร้า ไม่ว่าจะดีจะชั่วยังไงเธอและเซี่ยชิงฉวนก็เป็นพี่น้องกัน หากแต่แม้ว่าเธอจะเห็นอกเห็นใจเซี่ยชิงฉวน ทว่าเซี่ยชิงฉวนก็สมควรได้รับผลนั้นแล้ว
แต่นี่ เซี่ยชิงฉวนกำลังตั้งครรภ์ …
เจินเมี่ยวหยูคงไม่เคยคิดฝันว่า เซี่ยชิงฉวนจะเป็นผู้ที่ดื่มยาปลุกเซ็กส์ กระทั่งทำลายชีวิตตนเองทั้งชีวิต
เรื่องของคุณหนูรองสกุลเซี่ยที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงวันเกิดของเจ้าบ้านเซี่ย … กลายเป็นข่าวเด่นข่าวดังที่แพร่สะพัดไปทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้ในวันนั้น
แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อซื้อข่าวจากสื่อต่าง ๆ หากแต่ตอนนี้อินเทอร์เน็ตก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก มีภาพถ่ายจำนวนมากที่หลุดรอดออกมาจากที่เกิดเหตุในเวลานั้น และภาพพวกนั้นก็แพร่กระจายไปบนโลกออนไลน์ …
เวลานั้น เจินเมี่ยวหยูคิดแต่ว่าเซี่ยฉิงกงจะเป็นคนดื่ม เธอจึงเพิ่มปริมาณยาลงไปในไวน์มากขึ้น ก่อนหน้านี้ เซี่ยชิงฉวนอาจเป็นคนป่าเถื่อน และเอาแต่ใจ หากแต่เธอก็เป็นคนที่มีชีวิตส่วนตัวที่สะอาดหมดจดไร้มลทิน ทั้งไม่เคยมีแฟนมาก่อน เธอยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง ด้วยเหตุนี้เมื่อแพทย์ตรวจร่างกาย จึงพบว่าทั่วร่ายกายของเธอมีแต่รอยฟกช้ำดำเขียว และไม่ใช่เพียงอวัยวะเพศของเธอเท่านั้นที่ฉีกขาด แม้แต่ทวารหนักของเธอก็ยังมีร่องรอยของการถูกล่วงล้ำ พูดง่าย ๆ ก็คือร่างกายของเธอถูกทำลายจนไม่เหลือดี
แน่นอนว่าจำเป็นที่จะต้องเอามารหัวขนคนนั้นออกเป็นแน่ เพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อ …
หากแต่หมอกลับบอกว่า ถ้าทำแท้ง เซี่ยชิงฉวนจะไม่มีวันตั้งท้องได้อีกเลยตลอดชีวิต
เซี่ยเจิ้งหัวปิดข่าวทั้งหมด เขารอให้เซี่ยชิงฉวนทำใจยอมรับ และเข้มแข็งมากกว่านี้ เขาจะส่งเธอไปต่างประเทศเพื่อให้กำเนิดลูกอย่างลับ ๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นับได้ว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวของตระกูลเซี่ย ทั้งย่อมจะแพร่กระจายไปได้ง่ายดายในประเทศจีนนี้
“เซี่ยฉิงกง เธอทำอย่างนี้กับน้องสาวของเธอได้อย่างไร นี่เธอสั่งสอนคนของเธออย่างไรกัน ? จะไม่เกินไปหน่อยหรือ ?”
เห็นได้ชัดว่าเจินเมี่ยวหยูไม่พอใจ เธอก้มลงมองลูกสาวที่เธอกอดไว้แนบอกด้วยความรู้สึกเสียใจ เห็นได้ชัดว่าหมั่นโถวเท้าหนักมาก ลูกถีบครั้งนี้ทำให้เซี่ยชิงฉวน ต้องทนทุกข์ทรมานมากเลยทีเดียว
“คุณป้า น้องชิงฉวนวิ่งถือมีดวิ่งโร่เข้ามาหมายจะแทงฉัน คนของฉันก็แค่พยายามปกป้องชีวิตของฉัน เช่นนี้ ก็ผิดด้วยหรือ ?”
“คุณมู่ คนที่คุณมอบหมายให้อยู่ข้างกายคุณย่อมต้องเก่งมากอยู่แล้วใช่มั้ย ? เธอไม่มีทักษะในการคว้ามีดจากมือของชิงฉวนเลยหรือ ?”
เซี่ยฉิงกงหัวเราะ ทฤษฎีนี้ช่างไร้สาระจริง ๆ มีเพียงเจินเมี่ยวหยูกับลูกสาวเท่านั้นที่สามารถพูดจาไร้เหตุผลแบบนี้ได้
ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อ หมั่นโถวก็กล่าวขึ้นว่า
“คุณนายเซี่ย หากจะให้ฉันเตะข้อมือของคุณหนูรองแล้วคว้ามีดมา เกรงว่ามือของคุณหนูรองจะขยับไม่ได้อีกครึ่งปี และหากมีดไม่ถูกแย่งมา มีดก็อาจจะพลาดไปโดนศีรษะของนายหญิงน้อย และนั่นย่อมจะทำให้นายหญิงน้อยได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นฉันคิดว่า ที่ฉันทำกับเธอเช่นนี้ ฉันก็สุภาพมากแล้วนะ”
ใบหน้าของเจินเมี่ยวหยูเปลี่ยนเป็นสีเขียว เธอแทบไม่อาจอดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป เธอเพียรพยายามระงับความโกรธ เมื่อครู่เธอเองก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงเผลอกล่าววาจาเช่นนั้นออกไป ดังนั้นตอนนี้เธอจึงตัดสินใจหยุดพูดเพียงแค่นั้น
ต่างกับเซี่ยชิงฉวนผู้ซึ่งไม่สามารถอดกลั้นได้ เธอพยายามลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับหยิบมีดขึ้นมาอีกครั้ง
“แกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน ?”
“ใครก็ได้เข้ามาที่นี่หน่อย เอาคุณหนูรองออกไปที !”
เซี่ยเจิ้งหัวโกรธมาก เขาโมโหจนตบโต๊ะ พร้อมกับคำรามออกมา
หลังจากนั้นไม่นาน ชายร่างท้วมในชุดดำสี่หรือห้าคนก็เข้ามา แล้วเซี่ยชิงฉวนก็ถูกบังคับลากตัวออกไป เจินเมี่ยวหยูสูดลมหายใจเข้าลึก พร้อมกับพูดว่า
“เจิ้งหัว ฉันขอไปดูแลชิงฉวนก่อนนะ”
เจินเมี่ยวหยูพูดจบ ก็หันไปมองเซี่ยฉิงกง ก่อนจะเดินออกไปอย่างรีบร้อน ทว่าก็ยังไม่วายมองตาเซี่ยฉิงกงก่อนที่จะจากไป และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกตัวสั่น เธอรู้สึกเหมือนได้สบตาของอสรพิษ
“ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่นี่แล้ว”
ชั่วขณะนั้นมือใหญ่ ๆ ของมู่เฉินฮ่าวก็ตระหวัดโอบรอบเอวของเธอ เขากระชับอ้อมแขนขึ้นอีกเล็กน้อย และกักขังเธอไว้ในวงแขนของตน
***จบตอน แค่ถีบก็นับว่าสุภาพมากแล้ว***