เช้าวันที่สิบหก ในที่สุดคูปองปริศนาได้ถูกแจกจ่ายออกไป แม้ว่าจะมีบางส่วนกองอยู่ในถังขยะอยู่บ้าง แต่ผู้ที่ได้รับส่วนใหญ่ก็คิดจะไปร่วมงานในคืนนั้น
ในไม่ช้าแถวยาวเหยียดตั้งอยู่ด้านนอกโรงภาพยนตร์ที่จัดไว้ ทุกคนในแถวมีจุดร่วมเดียวกันคือความหลงใหลในมดราชินีหมดทั้งใจ
ไม่นานนักข่าวได้มาถึงและต่างต้องการรู้ว่าคอภาพยนตร์คิดเห็นอย่างไรกับงานของไห่รุ่ย หลายคนตอบกลับมาด้วยความตื่นเต้น
“วันนี้หนาวจัดผมเลยไม่อยากจะออกจากบ้านเลยครับ แต่ด้านในโรงหนังก็น่าตื่นตาตื่นใจมาก ไห่รุ่ยเองก็จัดงานใหญ่และน่าสนใจให้มดราชินีอีกอย่างผมก็สงสัยว่า ของขวัญ ในมือผมจะเป็นอะไรด้วยครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งบอก
“ที่อย่างนี้เหมาะกับการมาเที่ยวด้วยกันที่สุดเลยค่ะ ที่นี่ทั้งบรรยากาศดีแล้วก็อบอุ่น”
“ใช่ครับ เราเป็นแฟนๆ ของถังหนิง เรามาเข้าร่วมงานนี้เพื่อสนับสนุนและให้กำลังใจเธอที่จะออกฉายมดราชินีสองในเร็วๆ นี้ครับ” คู่รักคู่หนึ่งบอก
“ในฐานะแฟนๆ ของถังหนิง ฉันต้องมาวันนี้ค่ะ ถังแฟนทุกคนควรมาที่นี่วันนี้”
หลังจากเด็กสาวคนนี้ว่าขึ้น เด็กสาวคนอื่นๆ อีกหลายคนพุ่งเข้ามาหากล้องจากด้านหลังเธอ
นักข่าวสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นในโรงภาพยนตร์ และเป็นธรรมดาที่จะเกิดจากความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับของขวัญปริศนา “ดูแถวยาวเหยียดของผู้ที่ได้รับคูปองสิครับ ผมเองก็อิจฉาพวกเขาจริงๆ นะครับ การให้ของขวัญชิ้นนี้แปลกใหม่มากๆ ในค่ำคืนหน้าหนาวที่เย็นจัดนี้ งานครบรอบของไห่รุ่ยต้องเป็นสิ่งที่ร้อนแรงที่สุดในเมืองอย่างแน่นอน ผมหวังว่าไห่รุ่ยจะสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ และไม่เหมือนใคร เพื่อมอบความอบอุ่นและความสุขให้กับทุกคนต่อไปนะครับ!”
ผู้สื่อข่าวสิ้นสุดการถ่ายทอดสดไว้ที่ตรงนั้นและไม่ได้รายงานอะไรเพิ่มเติม
ในขณะเดียวกันเพื่อให้เห็นกระแสตอบรับของผู้ชมกับตา ถังหนิงต้องไปที่โรงภาพยนตร์ด้วยตัวเอง
ตอนนั้นเองที่ผู้ได้รับคูปองมารวมตัวกันในโรงฉายและนั่งลงกับที่
หรือบางที่พวกเขาอาจกำลังได้ดูภาพยนตร์ย้อนรำลึกถึงมดราชินีก็เป็นได้
“ถ้ามันเป็นหนังย้อนรำลึกอย่างนั้นฉันก็ไม่อยากดูมันหรอก”
“ฉันไม่คิดว่ามันจะเรียบง่ายขนาดนั้นหรอกนะ ถ้ามันเป็นหนังย้อนรำลึก ไห่รุ่ยก็คงปล่อยมันให้ได้ดูกันทั่วแทนที่จะทำให้ลึกลับซับซ้อนขนาดนี้ไปแล้ว”
“จริงๆ มันก็ยังเป็นแค่ช่วยต้นๆ นะ งั้นก็อดใจรออีกหน่อยกันเราพลาดเรื่องน่าทึ่งครั้งใหญ่ไปจริงๆ เถอะ”
ไม่นานทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความงุนงงสับสน แสงไฟมืดลงในเวลาต่อมา คำเตือนให้ทุกคนเงียบลงปรากฏขึ้นตามปกติพร้อมกับมดยักษ์ที่โผล่ออกมาบนหน้าจอ
เมื่อพวกเขาเห็นมดผู้ชมหลายคนอยากจะลุกขึ้นออกไป เพราะคิดว่าไห่รุ่ยเชิญพวกเขามาที่นี่เพื่อดูมดราชินีอีกครั้ง หากแต่พวกเขาดูมันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
ทว่าเมื่อชื่อภาพยนตร์ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ทุกคนต่างไชโยโห่ร้องกันด้วยความตื่นเต้น
“วู้ว! ดูสิ! ดู! มันบอกว่าสองล่ะ! ไม่ใช่ภาคแรก!”
“โอ้พระเจ้า เป็นภาคสองจริงๆ ด้วย! เป็นแค่ตัวอย่างหนังหรือเปล่านะ”
ทุกคนในโรงภาพยนตร์ต่างตื่นเต้นถึงขั้นที่เริ่มถามกันและกัน “จริงเหรอเนี่ย พระเจ้าช่วย ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักนิด!”
เมื่อเห็นว่าผู้ชมไม่สงบลง ทีมงานที่ดูแลการฉายหยุดภาพเอาไว้ก่อนก้าวออกมาชี้แจง “ยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ พวกคุณคงไม่รู้ว่านี่เป็นการฉายหนังเรื่องล่าสุดของถังหนิงจริงๆ มดราชินีสองค่ะ! เพราะพวกคุณได้รับคูปองในมือจึงเป็นแขกผู้โชคดีของการฉายรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่องนี้ หวังว่าทุกคนจะอยู่ในความสงบและเพลิดเพลินไปกับหนังนะคะ!”
“เดี๋ยวก่อนครับ คุณ ขอผมทำใจให้สงบก่อน ผมไม่อยากจะเชื่อเลย!”
แฟนวงการไซไฟที่อายุยังน้อยคนหนึ่งรู้สึกเหมือนตัวเองชนะรางวัลใหญ่ เขาจึงต้องการเวลาเพื่อรวบรวมสติ
“โอเคค่ะ ทุกท่าน เราจะให้เวลาพวกคุณสองนาที หลังจากนั้นหนังจะเริ่มฉายต่อนะคะ”
“นี่เป็นภาคต่อ! ไม่ใช่ภาคแรก! ฉันตื่นเต้นเป็นบ้าเลย! ฉันอยากโพสต์เรื่องนี้ออนไลน์!”
“ฉันด้วย! ฉันด้วย!”
“โอ้ พระเจ้า ไห่รุ่ยก็ช่างคิดทำเรื่องน่าทึ่งจัง นี่มันเหมือนกับได้ชนะรางวัลใหญ่เลย!”
“งั้นพวกเราก็เป็นกลุ่มแรกที่ได้ดูน่ะสิ โชคดีสุดๆ!”
ผู้ชมแบ่งปันความรู้สึกและรีบปลดปล่อยอารมณ์ในเวลาสองนาที หลังจากนั้นภาพยนตร์จึงเริ่มฉายอย่างเป็นทางการ ทุกคนพยายามทำใจให้สงบอย่างถึงที่สุดก่อนสุดท้ายจะดื่มด่ำไปกับภาพยนตร์
เป็นปกติที่พวกเขาจะทำเช่นนี้ ถึงอย่างไรมันก็ยากนักที่จะได้ดูภาพยนตร์ไซไฟเรื่องเยี่ยม…
เป็นที่ฮือฮาในบัญชีโซเชียลของผู้ชมหลายคนในเวลาหลังจากนั้น โพสต์ที่ไม่น่าเชื่ออันแล้วอันเล่าถูกจุดประกายในค่ำคืนหน้าหนาวที่เยือกเย็น
[พวกคุณดูมดราชินีสองเหรอ เป็นไปได้ยังไงกัน]
[พวกคุณโกหกนี่ คุณต้องดูหนังภาคแรกอยู่แน่ๆ เรายังไม่ได้ยินอะไรที่เกี่ยวกับภาคต่อเลยนะ]
ผู้ชมบางคนถึงกับทะเลาะกับเพื่อในโลกออนไลน์ จนกระทั่งเขาเอารูปมาให้ดูถึงได้เชื่อว่าพูดความจริงในท้ายที่สุด
หลังจากนั้นเพื่อนของเขาก็ได้เข้าระบบแอปพลิเคชันของโรงภาพยนตร์และพบว่าบัตรเข้าชมของมดราชินีสองได้เปิดขายแล้วอย่างไม่มีคำแจ้งเตือนล่วงหน้า มันได้เริ่มออกฉายอย่างเป็นทางการแล้ว!
[อะไรกันวะเนี่ย ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ใหม! ฉันอยากไปดูมันที่โรงหนังซะเดี๋ยวนี้เลย! แต่ดูเหมือนฉันจะซื้อตั๋วไม่ได้เลย ไห่รุ่ยช่วยออกมาชี้แจงหน่อย…]
[มีแค่ตั๋วของรอบวันพรุ่งนี้ งั้นฉันจะจองของวันพรุ่งนี้แล้วกัน!]
มดราชินีสองเริ่มฉายอย่างเป็นทางการในขณะที่ผู้อาวุโสหนานกงไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของงานในคืนนั้นและทำให้ผู้ได้รับคูปองรู้สึกพิเศษ ไห่รุ่ยบอกกับทางโรงภาพยนตร์และตกลงกันว่าจะไม่ฉายอีกจนกระทั่งวันถัดไป
เมื่อคนที่ทิ้งคูปองของพวกเขาไปรู้ว่าแท้จริงแล้วมันเป็นตั๋วรอบปฐมทัศน์ของมดราชินีสองหลายคนรีบกลับที่ที่เขาทิ้งมันไปและพยายามคุ้ยถังขยะหา ซึ่งเป็นภาพที่พบเห็นได้หลายที่ทั่วประเทศ
คนเก็บขยะถึงกับตกใจกับภาพที่เห็นนี้!
ทำไมหนุ่มสาวที่แต่งตัวดีพวกนี้ถึงได้มาคุ้ยถังขยะกันล่ะ
เป็นเพราะอันที่จริงงานของไห่รุ่ยนั้นได้ผลกว่าแผนการตลาดตามปกติไหนๆ
อย่างไรเสียผู้ชมกลุ่มแรกก็กำลังบอกต่ออย่างเป็นบ้าเป็นหลังและประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ให้พวกเขา ในขณะที่คนที่พลาดคูปองไปได้แต่ฟังด้วยความอิจฉา…
ความเสียดายตั๋วจากงานนี้ทำให้เจ้าของโรงภาพยนตร์ถึงกับยิ้มกว้าง เพราะในชั่วข้ามคืนยอดจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าของมดราชินีสองก็เป็นไปอย่างบ้าคลั่ง…
ไม่มีการร่วมมือกับบริษัทไหนที่จะดีไปกว่ากับไห่รุ่ย เพราะทุกครั้งที่ถังหนิงปล่อยภาพยนตร์พวกเขาก็มักจะได้กำไรถล่มทลาย
แม้ว่าอากาศจะหนาวและพวกเขาต้องทำงานจนดึกดื่น ทีมงานก็ยังมีพลังงานเต็มเปี่ยม
หรือมดราชินีสองกำลังจะดังเปรี้ยงปร้างกัน ยังต้องถามเรื่องนั้นอีกหรือ
ไม่มีใครคาดคิดว่าถังหนิงกับโม่ถิงจะงัดลูกเล่นนี้มาใช้ ในวันถัดมาเมื่อทุกคนต่างพูดถึงมดราชินีสองกันแล้ว ผู้อาวุโสหนานกงจึงยังคงไม่รู้ถึงสถานการณ์ของเขา…