ตอนที่ 745 ร่วมใจ! ตรวจดีเอ็นเอ (5)
เขาพูดพลางยกมือขึ้นมาตบหน้าตนเอง “ขายหน้าจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไม้ที่ไหน แม้กระทั่งหนูในบ่อน้ำเสียยังเทียบไม่ติด!”
“พ่อ…”
“ต่อไปนี้ไม่ต้องไปที่บ้านตระกูลลู่อีก แล้วก็ไม่ต้องเสนอหน้าไปเจอคนในตระกูลลู่ พรุ่งนี้แกต้องไปพบลุงหลี่กับฉัน ฉันตัดสินใจรับหมั้นกับตระกูลหลีแล้วให้แกแต่งงานกับลูกชายคนรองของลุงหลี่ของแก”
เหวินซินเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวซึ่งใครจะไม่รู้ว่าลูกชายคนรองของตระกูลหลี่เป็นพวกมีรสนิยมทางเพศแบบซาดิสม์
ผู้หญิงที่เคยผ่านมือเขาไม่สมบูรณ์สักคน หากไม่ถูกเขาทรมานจนตายก็ถูกทารุณกรรมจนพิกลพิการ
เธอส่ายหน้าด้วยความตื่นตระหนกแล้วร่ำร้องอย่างน่าสงสาร “พ่อ ไม่เอา หนูไม่เอา”
“แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่าทำเพื่อตระกูลเหวิน แต่งเข้าตระกูลหลี่ก็เพื่อดีต่อตระกูลเหวิน!”
พ่อของเหวินซินเหมยกล่าวด้วยสีหน้าเยือกเย็นไร้อารมณ์ก่อนจะหันหลังจากๆ เหลือเพียงเหวินซินเหมยที่นั่งลงกับพื้นตัวขาวซีดไร้เรี่ยวแรง
…
อวี๋กานกานกลับจากโรงพยาบาลถึงบ้านก็เห็นฟังจือหันกำลังนั่งบนเก้าอี้จิบชาพลางอ่านหนังสืออย่างสบายใจเฉิบ
เธอเดินเข้าไปเกาะหลังเขาทั้งยังทำให้เขาตกใจเล่นเบาๆ อีกด้วย “ไฮ”
เขารู้ว่าเธอเข้าประตูมาตั้งแต่แรกแล้ว ถึงแม้เธอจะทำเป็นย่องเบาเขาก็ยังสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของเธอ
ดังนั้นชายหนุ่มยังคงสีหน้าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หนักแน่นดั่งเขาไท่ซาน อวี๋กานกานรู้สึกเบื่อหน่ายจึงปล่อยแขนแล้วนั่งลงตรงข้ามเขา “ทำไมฉันไม่สามารถทำให้คุณตกใจได้ทุกครั้งเลยล่ะ”
“เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณปรากฏตัวขึ้น ประสาทสัมผัสทั้งหมดของผมก็คือคุณ” เพราะมันคือคุณทั้งหมด คุณจะทำให้ผมตกใจได้อย่างไร
ทำไมคำอธิบายเหล่านี้ดูเหมือนคำบอกรักได้ยังไง
อวี๋กานกานหัวเราะเสียงเบา “คุณพูดเก่งจัง”
เธอลุกขึ้นเดินเข้าห้องครัวหยิบนมเปรี้ยวมาดื่มหนึ่งขวดและถามเขาด้วยว่า “คุณจะดื่มนมด้วยไหม”
ในขณะที่ฟังจือหันช้อนมองเธอ สายตาของเขาก็กวาดมองหน้าอกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ
อวี๋กานกานหน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างคับแค้นใจ “มองอะไรน่ะ”
ฟังจือหันยื่นมือไปรับนมเปรี้ยวแล้วดึงมือของเธอให้มานั่งตักของเขา “คุณกะว่าวันนี้จะดื่มแค่นมขวดนี้ขวดเดียวและจะไม่กินอะไรอีกแล้วใช่ไหม”
อวี๋กานกานพยักหน้า “ใช่ค่ะ ช่วงนี้ฉันลดน้ำหนัก”
ฟังจือหันมีสีหน้านิ่งขรึม “ลดน้ำหนักอะไรกัน ผมจะบอกคุณให้ต่อไปนี้เตรียมตัวให้ผมกินด้วย คุณผอมก็ใช่ว่าผมจะไม่หิว”
อวี๋กานกานหัวเราะเสียงแผ่ว จากนั้นจูบเบาๆ ไปที่ริมฝีปากของเขา “ฉันพูดกับคุณตามตรงก็ได้ การผอมคือการหิวทุกมื้อจริงๆ ผิวสุขภาพดีเป็นผลมาจากการควบคุมน้ำตาลและหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ดังนั้นมันจึงเป็นความเจ็บปวดที่สวยงาม ถึงแม้ฉันจะหิวเหมือนกันแต่ฉันก็จำเป็นต้องอดทนค่ะ”
ฟังจือหันขมวดคิ้วเล็กน้อย “ใครบอก มั่วซั่วมาก คุณเป็นหมอแท้ๆ”
เธอจิ้มนิ้วไปที่ระหว่างคิ้วของเขาเพื่อคลายคิ้วที่ขมวดมุ่น “ฉันเป็นหมอไง ดังนั้นฉันรู้ว่าต้องผอมจริงๆ ก็แค่กินน้อยๆ แล้วเพิ่มการออกกำลัง”
เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยเสน่ห์ที่เย้ายวน “คุณอยากออกกำลังกายไหม”
นี่คือการล่อลวงให้กินผลไม้ ดวงตาของฟังจือหันมืดมิด แขนที่โอบเอวอวี๋กานกานอยู่ มือเริ่มอ้อยอิ่งอยู่ที่รอบเอวและป้วนเปี้ยนแถวแผ่นหลัง
เขาโน้มศีรษะเล็กน้อยขยับริมฝีปากใกล้หูของเธอ ดูดคลึงเบาๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจ “อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วผมจะเห็นด้วยกับคุณ เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมกินอะไรคุณก็ต้องกินด้วยเหมือนกัน ขาดไปมื้อหนึ่งผมก็จะกินคุณเพิ่มไปอีกมื้อหนึ่ง”
ลมหายใจที่พ่นข้างหู อวี๋กานกานหลบหลีกอย่างขอความเมตตาและหดตัวถอยกรูดไปข้างหลัง “อย่า…อย่ากัด”
เธอกะพริบตาปริบๆ เอียงหน้าแล้วลูบหูป้อยๆ “เสียวมาก”
ฟังจือหันช้อนตัวเธออุ้มขึ้นไปยังห้องนอน “เดี๋ยวผมจะทำให้คุณเสียวยิ่งกว่านี้อีก…”
ตอนที่ 746 ร่วมใจ! ตรวจดีเอ็นเอ (6)
ฟังจือหันอุ้มอวี๋กานกานเข้าไปในห้องนอน หลังจากขยันออกกำลังอย่างหนักไปหนึ่งรอบ อวี๋กานกานแทบทนไม่ไหว ในใจคิดว่าต่อไปเธอจะไม่ยั่วเขาก่อนอีกแล้ว
เธอเตือนตัวเองเช่นนี้ทีไรแต่สุดท้ายก็ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ดี
อวี๋กานกานนั่งลงบนโซฟา ส่วนฟังจือหันยืนอยู่ข้างหลังกำลังช่วยเธอเป่าผมให้ เส้นผมนุ่มลื่นสางผ่านนิ้ว แสงจากโคมไฟคริสตัลระย้าที่อยู่เหนือศีรษะส่องลงมาหมุนวนทำให้พวกเขาพร่างพราวด้วยประกายแวววาว
ช่วงกลางคืนด้านนอกมืดสนิท หลังจากทั้งสองออกกำลังกายเสร็จสรรพต่างก็ยังไม่ได้ทานอาหารเย็นกัน เมื่อเป่าผมให้เสร็จแล้วฟังจือหันก็จูงอวี๋กานกานให้ลงมาทานอาหารข้างล่าง
ทั้งสองคนทำอาหารไม่เก่ง อีกอย่างแม่บ้านหูก็กลับไปแล้วด้วย พวกเขาจึงทำได้เพียงสั่งอาหารมาทานที่บ้าน
เมื่อเห็นอาหารหน้าตาน่าทานวางบนโต๊ะ อวี๋กานกานก็นึกหิวขึ้นมาและลอบกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว จะทานหรือว่าไม่ทานดีนะ อยากทานแต่ก็กลัวอ้อน
“อันนี้ท่าทางไม่เลว กินสิ” ฟังจือหันคีบปีกไก่อบน้ำผึ้งวางในถ้วยให้เธอ
ปีกไก่สีแดงชุ่มฉ่ำมันวาว ทำให้เธอนึกถึงรสชาติที่เคยกินมันเมื่อก่อนหน้านี้ กลิ่นหอมหวนเนื้อนุ่มละลายในปาก เพราะนอกจากน้ำผึ้งที่เคลือบข้างบนแล้วยังมีรสชาติหวานอีกด้วย…
ไม่ต้องคิดแล้ว ถ้ายังคิดอีกน้ำลายต้องไหลออกมาแน่ๆ
อวี๋กานกานส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันไม่กินดีกว่าค่ะ อันนี้มันเลี่ยนเกินไป คุณก็อย่ากินเยอะนะคะ ระวังอ้วน”
“ผมออกกำลัง” สายตาของฟังจือหันลุ่มลึก ดูเหมือนจะแฝงด้วยอะไรบางอย่าง
อวี๋กานกานจึงเบะปากไม่พูดอะไรอีก ฟังจือหันคีบเนื้อปลาชิ้นหนึ่งจ่อปากเธอ “เนื้อปลาอุดมด้วยโปรตีน กินแล้วไม่อ้วน อีกอย่างถ้าอยากผอมคุณก็ต้องเพิ่มโปรตีนให้มากๆ”
จริงอย่างที่กล่าว อวี๋กานกานลังเลนิดหนึ่งไม่สามารถต้านทานความยั่วยวนของอาหารได้ เธอจึงอ้าปากทานเข้าไป
คนคนนี้น่ะหรือพอได้เริ่มกินแล้วก็หยุดไม่ได้หรอก แม้จะกินไม่ค่อยเยอะแต่ก็อิ่มพอประมาณ
“วันนี้ฉันไปเยี่ยมเล่อเล่อน้อยมาแล้วค่ะ แค่สองสามวันเขาก็โตขึ้นแล้วแถมยังน่ารักมากอีกด้วย” ไม่รู้เพราะเหตุใดจู่ๆ อวี๋กานกานก็นึกอยากมีลูกขึ้นมา
ฟังจือหันมองเธออย่างนึกเอ็นดู เหมือนเธอเท่ากับโลกทั้งใบของเขา “ไม่เอา”
หากไม่ใช่เพราะความอ่อนโยนและความเสน่หาในม่านตาของชายหนุ่ม อวี๋กานกานคิดว่าเขากำลังบอกว่าเขาไม่ต้องการเธอ เธอจึงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “ไม่เอาอะไร”
“ไม่เอาลูกชาย”
อวี๋กานกานแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เธอเบะปากเล็กน้อยแล้วพูดอย่างหยอกเย้า “ใครจะมีลูกชายให้คุณกันคะ”
ฟังจือหันทานพอสมควรแล้วจึงวงตะเกียบลงแล้วเอ่ยว่า “อยากได้ลูกสาวที่เหมือนคุณ”
อวี๋กานกานหัวเราะ “ถ้าสมมติดันคลอดออกมาเป็นผู้ชาย คุณคิดจะทิ้งลูกใช่ไหม”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟังจือหันครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วจึงตอบอย่างเคร่งขรึม “ข้อเสนอนี้ไม่เลวทีเดียว”
คราวนี้อวี๋กานกานอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ จึงหัวเราะออกมาด้วยสีหน้าหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “ใครแนะนำคุณมาฮะ”
ฟังจือหันคิ้วกระตุก “งั้นคุณกำลังสารภาพกับผมเหรอ”
อวี๋กานกาน “…”
หลังจากทานอาหารเสร็จ อวี๋กานกานก็นั่งอ่านหนังสือที่โซฟา ฟังจือหันนั่งข้างๆ โดยในมือถือเอกสารอยู่
ในบางครั้งเมื่อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ได้ตั้งใจก็จะเห็นร่างของกันและกัน ฉากที่อบอุ่นและสงบสร้างความอ่อนโยนขึ้นมาในห้อง
จู่ๆ อวี๋กานกานก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “คุณบอดี้การ์ดหญิงคนนั้น คุณให้เธอไม่ต้องตามฉันอีกได้ไหมคะ”
พวกเจียงซื่อเซิ่งได้รับโทษหมดแล้ว คงไม่มีใครคิดทำร้ายเธออีกแล้วมั้ง…