ตอนที่ 801 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (21)
ฟังจือหันเอนตัวไปข้างหลังแล้วพิงพนักเก้าอี้ “ว่าตามเหตุผลน่าจะเป็นไปไม่ค่อยได้ ลุงรองไม่ยอมแพ้กับโครงการนี้มาตลอดเพราะรู้มูลค่าของโครงการนี้ นั่นมันจะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะเปิดเผยไปเรื่อย”
“ปัจจุบันโครงการนี้เป็นแค่ผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่สมบูรณ์ และเป็นไปได้ที่เขาคิดว่าจะไม่มีทางสำเร็จ ขายทิ้งไปเลยเสียดีกว่าจะได้เงินสักเท่าไหร่”
การคาดเดาของอวี๋กานกานทำให้ฟังจือหันยกยิ้ม “คุณไม่ต้องกังวล ผมจะจัดการให้เรียบร้อย”
พอพูดแบบนี้ออกไป อวี๋กานกานก็ทำหน้าบึ้ง เบ้ปากด้วยความไม่พอใจแล้วพูดงึมงำ “ฉันว่าโรคเก่าคุณกำเริบอีกแล้ว คิดว่าฉันจะขวางเรื่องของคุณ รังเกียจที่ฉันเป็นคนเจ้าปัญหา ได้เลย ฉันกลับล่ะ”
เธอพูดพลางลุกขึ้น ตัวลุกได้ครึ่งเดียวก็โดนฟังจือหันคว้าข้อมือเอาไว้ ดึงให้เธอนั่งลงมาบนขาของเขาเล็กน้อย “พูดอะไรเลอะเทอะ”
อวี๋กานกานโดนกักขังในอ้อมแขนจึงลุกไม่ได้ ตัวเอนไปข้างหลัง มือหยัดกับโต๊ะ “หรือไม่ใช่ล่ะ ทุกครั้งพูดอะไรก็บอกฉันให้หมด ผลคือเอาแต่บอกครึ่งหนึ่งปิดบังครึ่งหนึ่ง”
ฟังจือหันสบตาเธออย่างยอมแพ้ “เรื่องราวซับซ้อนเกินไปแล้ว และเป็นแค่การคาดเดามากมายเท่านั้น รอให้ผมมั่นใจทุกอย่างค่อยบอกกับคุณ”
อวี๋กานกานยกแขนโอบรอบคอเขา “ฉันอยากฟังการคาดเดาของคุณ พูดมาสิๆ”
เธอทำเสียงอ้อน นั่งสั่นตัวออดอ้อนไปหาฟังจือหันบนขาของเขา แววตาของฟังจือหันลึกซึ้ง พูดไกล่เกลี่ย “ช่วงนี้ผมพบว่าการตายของพ่ออาจจะไม่ใช่แบบที่เห็นภายนอก”
ไม่ใช่แบบที่เห็นภายนอก? ไม่ใช่ว่าเจียงซื่อเซิ่งสารภาพผิดหมดแล้วเหรอ อวี๋กานกานมองใบหน้าจริงจังของฟังจือหันไม่วางตา ในใจพลันผุดความคิดไปไกลหนึ่งขึ้นมา
เธอเอ่ยอย่างลังเล “คุณคงจะไม่ได้บอกว่าลุงรองของคุณก็ไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าพ่อคุณเหรอ ฆาตกรตัวจริงมีคนอื่นอีก? แต่ไม่ใช่ว่าเขาสารภาพ…”
ฟังจือหันถามเธอ “จำตอนแรกสุดได้ไหม พี่ชายผมพูดอะไรตอนขึ้นศาล”
อวี๋กานกานตอบ “วันนั้น…เขายอมรับกับพวกเราว่าเขาเป็นฆาตกรที่ฆ่าเจียงป๋อซื่อ แต่ว่าความจริงกลับไม่ใช่อย่างนั้น การตายของพ่อคุณไม่ได้เกิดจากการระเบิด ลุงรองของคุณบอกแล้ว ก่อนจะระเบิดเจียงป๋อซื่อโดนฆ่าไปแล้ว พวกเขาต่างก็คิดว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเจียงป๋อซื่อ แต่ว่าทำไมคุณถึงคิดว่าที่พวกเขาสารภาพเป็นเรื่องไม่จริงล่ะ”
เธอชี้ไปที่แฟ้มเอกสาร “เพราะตำรับยานี้ไหม”
การคาดเดาที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยนี้ทำให้รู้สึกขนลุกลนพองไปทั้งตัว
ถ้าเจียงซื่อเซิ่งกับเจียงไป๋อันต่างก็ไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าเจียงป๋อซื่อ งั้นฆาตกรที่แท้จริงคือใคร
และมีจุดประสงค์อะไร
ฆ่าเจียงป๋อซื่อเป็นอุบัติเหตุหรือว่าไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า
ฟังจือหัน “ตำรับยานี้อยู่ในตลาด เห็นได้ชัดว่ายังมีบุคคลที่สามที่รู้ แต่ว่าตำรับยาของเขามาจากไหน ถ้าเป็นการหลุดออกไป งั้นผมก็คิดมากไป แต่ว่าถ้าไม่ใช่หลุดออกไป งั้นก็หมายความว่ายังมีบุคคลที่สามที่รู้ตำรับยานี้ ในเมื่อรู้ตำรับยานี้ งั้นเขารู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างพ่อของผมกับลุงรองหรือไม่ และแสดงบทบาทไหนตรงกลาง”
อวี๋กานกาน “อยากจะรู้ว่ามีบุคคลที่สามหรือไม่ก็ถามลุงรองของคุณได้เลย ตอนเขายอมสารภาพทุกอย่างด้วยการแลกกับที่ภรรยาและลูกของเขาไม่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต งั้นเขาก็อาจจะรู้เรื่องนี้แต่ไม่พูด นอกจากนี้ถ้าสิ่งที่คุณเดาถูกต้อง งั้นลุงรองก็ไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าคนตัวจริง เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในคุกหลายปีขนาดนั้น ถ้าคุณปู่ของพวกคุณรู้ก็จะต้องดีใจแน่”
ตอนที่ 802 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (22)
ฟังจือหันจะไปหาเจียงซื่อเซิ่งเพื่อถามเรื่องตำรับยาแน่
แต่ว่าเจียงซื่อเซิ่งพูดอย่างหนักแน่นมากกว่าเปล่า!
เจียงซื่อคอร์ปอเรชั่นค่อนข้างจะมีแรงงานและทรัพยากรจำนวนมาก เขาไม่มีทางหลุดเรื่องนี้ออกไปเรื่อยอย่างเด็ดขาด เกรงว่าฟังจือหันจะไม่เชื่อ เขายังยืนยันซ้ำไปซ้ำมาว่าสุดท้ายตำรับยานี้อยู่ที่เขาตลอด แม้แต่โจวหย่วนเฉวียนก็ไม่รู้ และเขายังไม่ทันได้ให้คนไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเลย
ฟังจือหันเงียบไม่พูดจา ไม่ได้ซักถามต่อ
ในใจของเขารู้คำตอบนี้แต่แรกแล้ว มองเวลาก็พอสมควรแล้วจึงเตรียมจะออกไป
“เดี๋ยวก่อน” เจียงซื่อเซิ่งเรียกเขาเอาไว้ สบตาเข้ากับสายตาของฟังจือหัน เขาลังเลครู่หนึ่งจึงพูดออกมาอีกครั้ง “ฉันรู้ว่าคำพูดนี้บอกไปแล้วไม่เหมาะ แต่ฉันยังอยากจะบอกว่าได้สืบคนข้างกายแกหมดแล้วรึยัง”
ความหมายของเขาก็คือบางทีคนข้างกายของฟังจือหันจะเป็นคนเปิดเผย?
คนข้างกายของฟังจือหันที่รู้ตำรับยานี้เป็นคนสุดท้ายนอกจากหลินเซินผู้ช่วยของเขาก็มีแค่อวี๋กานกานกับเหอสือกุยที่รู้ เขานิ่งไปชั่วขณะแล้วถามด้วยเสียงเรียบ “บนเรือยอชท์วันนั้นตอนที่ลุงออกไป ได้บังเอิญเจอใครไหม”
เจียงซื่อเซิ่งขมวดคิ้วมุ่นพลางย้อนถามเขา “ทำไมจู่ๆ แกถึงได้ถามคำถามนี้”
ฟังจือหันเอ่ย “ลุงแค่บอกผมมา ตอนที่ลุงกับพ่อมีปากเสียงกันจากนั้นก็พลั้งมือฆ่าเขา แต่ไม่ได้บอกผมว่าลุงพลั้งมือฆ่าเขายังไง”
“ฉันก็ยอมรับไปหมดแล้ว ทำไมต้องมาถามอีก หรือว่า…” ขณะที่พูดเจียงซื่อเซิ่งก็นึกอะไรขึ้นได้กะทันหัน ม่านตาหดในทันที เหลือบมองฟังจือหันไม่วางตา “นะ นี่แกหมายความว่าอะไร”
ฟังจือหันยังคงเงียบ แต่ท่าทางกลับบ่งบอกทุกอย่างแล้ว
ในใจของเจียงซื่อเซิ่งเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนก มือที่วางอยู่บนหน้าขากำเป็นหมัดแน่น
เขานึกย้อนไปถึงวันนั้นพลางเล่าไปด้วย “ตอนนั้นพวกเราทะเลาะกัน ตอนท้ายเราสองคนสู้กัน ช่วงที่กำลังชุลมุนฉันคว้าของไปเรื่อย แล้วฟาดใส่หัวของพ่อแกไป ตอนที่เห็นพ่อแกนอนอยู่กับพื้น ช่วงลมหายใจเฮือกสุดท้ายถึงได้รู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป แล้วลุกลี้ลุกลนในทันทีจึงวิ่งหนีออกไป”
เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ทุกอย่างจริงด้วย ลุงรองยังไม่ทันแน่ใจว่าตายแล้วหรือไม่ก็หนีไป ฟังจือหันถามอีกครั้ง “ลุงลองคิดดูให้ดีๆ ตอนที่ลุงออกไปได้เจอกับใครบ้าง”
“ฉันแอบเข้าไป ย่อมไม่อาจให้ใครเห็นฉันแน่ ระมัดระวังตัวมาก พยายามหลบตรงที่ที่มีคนอยู่…” เขาเล่าอยู่จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ “แต่ว่าตอนนั้นมีห้องหนึ่งประตูเปิดอยู่ มีพนักงานทำความสะอาดอยู่ข้างในแต่ว่ารถอยู่ข้างนอก ตัวคนอยู่ในห้องดังนั้นเขาจึงไม่เห็นฉัน”
“งั้นพ่อของผมมีศัตรูบ้างไหม” ไม่เอาเรื่องเปิดเผยตำรับยากับเรื่องการตายของพ่อเขาเชื่อมโยงกัน ในใจของฟังจือหันยังรู้สึกว่าความร่ำรวยของพ่อมีบางจุดที่เผยให้เห็นสิ่งผิดปกติอย่างบอกไม่ถูก
เจียงซื่อเซิ่งส่ายหน้า “พี่ใหญ่มนุษยสัมพันธ์ดีมากมาโดยตลอด…”
ตัวคนเขาเป็นคนฆ่า แม้จะพลั้งมือแต่ว่าในเมื่อเขายอมรับแล้วก็ไม่อยากจะหลอกลวงฟังจือหันอีก โกหกว่ามีศัตรูอะไร…เดี๋ยวก่อนนะ
เขาพลันนึกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากขึ้นมาได้ “17 ปีก่อนหมอเฉียนผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทเราเป็นเพราะเกี่ยวข้องกับวัคซีนปลอม แอบเอากล่องกับเครื่องหมายการค้าของบริษัทไป จากนั้นก็เทน้ำเกลือทำเป็นวัคซีนปลอมจำหน่ายข้างนอก เรื่องนี้ฉันกับพ่อแกรู้เข้า เพื่อชื่อเสียงของบริษัทเราจึงไม่อาจให้เขาอยู่ต่อได้ ไม่เพียงแต่ไม่อาจให้เขาอยู่ต่อแต่ยังต้องแจ้งตำรวจ!!”